ข้อความต้นฉบับในหน้า
จนท้าวสักกะต้องเสด็จไปชื่นชมบารมีกันเลยทีเดียว
เรื่องมีอยู่ว่า นับถอยหลังไป ๓๐,๐๐๐ กัป ใน
ยุคของพระสุเมธพุทธเจ้า มีชายหนุ่มคนหนึ่ง เป็นคนมี
ศรัทธาในพระศาสนา เห็นพ่อแม่เป็นต้นแบบที่ดีใน
การทำบุญใส่บาตรพระเป็นประจำตั้งแต่เด็ก เขาก็ตื่น
ขึ้นมาใส่บาตรพระด้วย วันพระก็ไปฟังธรรมที่วัดเป็น
ประจำ พอเติบโตเป็นหนุ่มก็ขอลาบวช เพื่อจะได้
บำเพ็ญสมณธรรมอย่างเต็มที่ พ่อแม่ก็อนุโมทนาบุญ
ด้วย ท่านได้บวชเป็นภิกษุผู้มีศีลาจารวัตรงดงาม
และตั้งใจบำเพ็ญไตรสิกขาให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ตั้งใจ
รักษาศีลให้บริสุทธิ์ นั่งสมาธิเจริญภาวนา และหมั่น
ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า แต่ครั้นบวชได้เพียง
พรรษา เนื่องจากเป็นลูกชายคนเดียว ท่านจำต้อง
ลาสิกขาเพื่อไปดูแลพ่อแม่ผู้ชราภาพทั้งสอง
เมื่อลาสิกขาแล้ว ท่านก็ไม่ได้ประมาทในชีวิต
เหมือนชาวโลกทั่วไป ยังมีความอาลัยในผ้าเหลือง
และยังพอมีสมณสัญญาติดมาบ้าง จึงสมาทาน
รักษาศีล ๕ เป็นปกติ และยังรักษาอุโบสถศีลใน
วันพระอีกด้วย ท่านได้ทำหน้าที่ลูกกตัญญูปรนนิบัติ
ดูแลพ่อแม่ผู้แก่เฒ่าผู้เป็นดุจพระอรหันต์ในบ้านได้
อย่างสมบูรณ์ พอว่างเว้นจากการงานทางโลก ก็ยัง
หาโอกาสกลับไปที่วัดเดิม คอยอุปัฏฐากดูแลพระสงฆ์
ไปปัดกวาดและดูแลศาสนสมบัติที่ลานพระเจดีย์
ด้วยจิตเลื่อมใส
บุญพิเศษอีกอย่างหนึ่งที่ท่านได้ทำตลอดชีวิต
คือ ได้ชักชวนสาธุชนให้มาบูชามหารัตนเจดีย์ของ
พระพุทธเจ้า โดยท่านชักชวนด้วยคำพูดง่าย ๆ ว่า
“ท่านทั้งหลาย พระพุทธเจ้าเป็นผู้มีพระคุณอันยิ่งใหญ่
ขอเชิญท่านผู้มีบุญจงบูชาพระบรมสารีริกธาตุของ
พระพุทธเจ้าผู้ควรบูชาเถิด หากพวกท่านละจาก
โลกนี้แล้ว จะได้ไปสวรรค์” ท่านทำอยู่อย่างนั้น
เป็นอาจิณจนตลอดชีวิต ผลบุญอันยิ่งใหญ่ที่แม้แต่