ข้อความต้นฉบับในหน้า
น้ำส้มแก้วเดียวกัน น้ำส้มเหมือนกัน แต่รสชาติไม่เหมือนกัน
คุณค่าก็ไม่เหมือน
ชื่นใจก็ไม่เหมือนกัน
ซึ้งน้ำใจก็ไม่เหมือนกัน
บางสิ่งที่ใส่ลงไป >> เจ้าของวัด
เมื่อได้รับมอบหมายงานจากหลวงพ่อแล้ว หลวงพี่ทุกรูปในวัดจะลุยงานไปข้างหน้า โดยที่คุณยาย
ท่านจะเป็นคนเก็บตามหลังให้อีกที โดยที่ท่านจะช่วยดูในเรื่องความเรียบร้อย มีอะไรตกหล่นหรือไม่
ท่านจะช่วยเก็บละเอียดให้เป็นคนสุดท้าย
วันหนึ่งคุณยายท่านเดินไปเจอลวดผูกเหล็กเบอร์ ๑๘ มีความยาวประมาณ ๒๕ ซม. ลวดนี้
คนรดน้ำต้นไม้ไปขอมาจากที่ก่อสร้าง เขาเอามาใช้รัดสายยางโดยใช้คีมขันรัดข้อต่อให้แน่น
จากนั้นก็ลากสายยางไปฉีดรดน้ำต้นไม้ พอเขารดน้ำเสร็จ ทั้งคีมและลวดที่เหลืออยู่เป็นมัด มันก็
ยังอยู่ในสนาม ซุกตัวอยู่ในที่ลับตาคน คุณยายท่านไปเจอเข้า ท่านก็เก็บเอามา
ตกเย็นหลังเลิกงานแล้วประมาณ ๕ โมงครึ่ง ต่างก็มานั่งล้อมวงฉันน้ำปานะกัน คุณยาย
ท่านก็เดินเข้ามาพูดคุยด้วย โดยเริ่มปรารภขึ้นว่า “คนทำงานนั้นมีเยอะ คนรับผิดชอบงานนั้นมีน้อย
จากนั้นท่านก็เล่าให้ฟังว่า “วันนี้ยายไปเจอลวดผูกเหล็กมา ใช้เสร็จแล้วทิ้ง
ๆ ขว้าง
แบบนี้ไม่ได้ นี่เป็นสมบัติของพระศาสนา มีคีมผูกเหล็ก มีลวดผูกเหล็กด้วย”
แล้วท่านก็เล่าถึงจุดที่ท่านเดินไปเจอว่าอยู่ตรงไหนในสนามหญ้า แล้วก็หันมามองหน้า
หลวงพี่รีบรับทันทีว่า “ครับยาย” เรื่องนี้ทำให้ได้คิดเลยว่า สนามหญ้ากว้างใหญ่ขนาดนั้น
คุณยายท่านยังตามไปดู ไปพบเจอลวดเส้นเล็ก ๆ เรื่อ
เรื่องแค่นี้ยังไม่หลุดจากสายตาคุณยาย
นี่ก็แสดงว่า
คุณยายท่านตามอยู่ข้างหลังเราทุกคนตลอดเวลา
ๆ
เมื่อฉันน้ำปานะเสร็จ หลวงพี่ท่านจึงรีบไปดูแล้วก็รู้ว่า แม้เรื่องนี้จะเป็นเรื่องของหน่วยงาน
ที่ดูแลเรื่องต้นไม้ แต่หลวงพี่ก็ต้องเข้ามามีส่วนร่วมรับผิดชอบด้วย
บางสิ่งที่ควรใส่เพิ่มลงไปในการทำงาน นั่นคือความรู้สึกเป็นเจ้าของบ้าน-เจ้าของวัดร่วมกัน
ดังนั้นทุกสิ่งทุกอย่างในวัดเราจึงควรรู้สึกว่าเป็นของเรา เป็นของพวกเราทุกคน
“ทั้งลวดผูกเหล็กกับทีมนี้ เขาก็ไปเบิกมาจากสโตร์ของหลวงพี่ เมื่อเบิกไปแล้วเขาเกิดขาด
ความรับผิดชอบ พอเกิดอะไรขึ้นมา หลวงพี่จะโยนหรือปัดความผิดไปที่ไหนไม่ได้