ความสุขจากการทำความดีและการปล่อยวาง วารสารอยู่ในบุญ ประจำเดือน มกราคม พ.ศ.2553  หน้า 70
หน้าที่ 70 / 104

สรุปเนื้อหา

ผู้ที่ละวางสมบัติและอยู่ในป่า มีความสุขจากการทำความดี โดยไม่กังวลเกี่ยวกับอนาคต ตระหนักว่าการทำบุญนั้นนำมาซึ่งความสุขในภพหน้ามากมาย การรักษาศีลช่วยให้มั่นใจและกล้าหาญในการทำความดี การมีความรู้จะทำให้เกิดความเชื่อมั่นและความพยายามในการเผชิญกับอุปสรรค

หัวข้อประเด็น

-ความสุขจากการทำความดี
-การปล่อยวางสมบัติ
-คุณค่าของบุญ
-การรักษาศีล
-การพัฒนาความรู้
-ความเพียรและความพยายาม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ท่ามกลางที่ประชุมสงฆ์ ว่าทำไมถึงอุทานอย่างนั้น ทั้งสองรูปซึ่งต่างกรรมต่างวาระกัน แต่ตอบเหมือน กันว่า สมัยยังเป็นกษัตริย์อยู่ มีคนแวดล้อมคอยดูแล รักษาความปลอดภัยสารพัด ทหารรักษาชายแดน รักษากำแพงเมือง รักษากำแพงวัง เฝ้าประตูปราสาท เป็นชั้น ๆ ไปจนถึงหน้าประตูห้องนอน แต่ก็หลับ ไม่สนิท นอนผวา สะดุ้ง กลัวคนมาลอบฆ่า กลัว โจรจะมาปล้นราชสมบัติ กลัวข้าศึกจะยกมาตีเมือง กลัวจะมีปัญหาเกิดขึ้นในบ้านเมืองสารพัดอย่าง แต่ พอสละสมบัติทั้งหลายเหล่านั้นมาอยู่คนเดียวในป่า มีผ้า ๓ ผืน ไปบิณฑบาตได้อาหารมาอย่างไรก็ฉัน อย่างนั้น ไม่มีสมบัติอะไรเลย อยู่อย่างเรียบง่ายที่สุด กลับไม่มีความกังวลเลย มีแต่ความสุขท่วมท้นหัวใจ จนต้องอุทานขึ้นมาว่า “สุขจริงหนอ ๆ ๆ” เพราะ เป็นความสุขจากภายใน ถามว่า ทําไมท่านไม่มีความกังวล เพราะท่าน ทราบแล้วว่า สิ่งที่ท่านทำอยู่เป็นสิ่งที่ถูกต้องดีงาม เป็นบุญ แล้วบุญนี้จะเป็นเครื่องนำมาซึ่งความสุขใน ภพชาติต่อไปได้อย่างไร ยิ่งถ้าตัดกิเลสหมดไปแล้ว นั่นคือความสุขอย่างยิ่ง ประโยชน์อย่างยิ่ง คือ เข้า พระนิพพานไปเลย เหนือกว่าบนโลกนี้มากมายนัก ต่อให้ตายไปในวันนั้นท่านก็ไม่ได้กังวล เพราะรู้ว่าไป ดี ถ้าเรามั่นใจได้ว่า ถ้าจากโลกนี้ไปแล้วเราจะไปสู่ ภพภูมิที่ประเสริฐกว่า มั่นใจ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ แล้ว เราจะเป็นคนที่ไม่มีความกังวลเลยในการทำความดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการให้ทาน รักษาศีล หรือทำ สมาธิภาวนา พร้อมจะทุ่มทั้งกายทั้งใจ ทำด้วย ความเชื่อมั่น ไม่มีความกังวลใด ๆ มาเหนี่ยวรั้งทั้งสิ้น เพราะหลักประกันแห่งชีวิต คุณค่าของบุญเป็น เครื่องการันตีให้กับเราว่า เราจะต้องพบสิ่งที่ดีงาม แน่นอน ไม่มีประโยชน์ที่จะมานั่งกังวลเฉพาะหน้า เพราะเห็นอยู่แล้วว่า ทำไปแล้วได้ยิ่งกว่าได้ ถ้ามอง ในแง่เป็นการลงทุน ก็เป็นการลงทุนที่คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม ชนิดที่ว่าไม่มีกองทุนใดในโลกนี้ที่ให้ผลตอบแทน ยิ่งกว่านี้ได้อีก การมีศรัทธา เข้าใจในเรื่องบุญบาป กฎแห่งกรรม โลกนี้ โลกหน้า จะทำให้เรามีความ เชื่อมั่น มีความกล้าหาญในการทำความดี โดย ปลอดจากความวิตกกังวลใด ๆ ทั้งสิ้น ประการที่ ๒ ศีล เป็นการอุดช่องโหว่ของเรา อุดจุดอ่อน ถ้าอุดช่องโหว่เรื่องศีลได้ ผลก็คือ ทำให้ สายบุญ สายสมบัติเชื่อมติดที่ศูนย์กลางกายของเรา ไม่ถูกบาปอกุศลมาตัดรอน พอบุญส่งผลเชื่อมต่อ เราก็ไม่มีความระแวงแคลงใจตัวเองว่า เดี๋ยวคนอื่น จะมารู้จุดอ่อน ข้อบกพร่องที่เราไปทำผิดพลาดไว้ บุญละเอียดก็หนุนส่ง เราก็สบายใจ โปร่งใจ ผลก็ คือ ความเชื่อมั่น ความกล้าหาญ ก็จะเกิดขึ้นมา ท่านบอกว่า มือที่ไม่มีแผลไม่กลัวยาพิษ เอายาพิษ มาใส่ถ้ามือไม่มีแผลก็ไม่เข้า เราไม่กลัว แต่ถ้าเมื่อไร มือมีแผล อย่าว่าแต่ยาพิษเลย แค่เอาทิงเจอร์มาทา ก็แสบแล้ว เราต้องทำให้ตัวเองเป็นคนไม่มีแผล คือ รักษาศีลให้ดี แล้วความเชื่อมั่น ความกล้าหาญ ความปลอดกังวลก็จะเกิดขึ้นมา ประการที่ ๓ พาหุสัจจะ คือ เป็นผู้ที่มีความ รู้มาก จะทำเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ต้องศึกษาหาความ รู้เรื่องนั้นให้แตกฉาน ให้มีความเชี่ยวชาญ ให้รู้จริง พอเรารู้จริงแล้วเราก็จะเกิดความเชื่อมั่นถ้าหากไม่มี ความรู้ก็ไม่ค่อยมั่นใจ จะทำอะไรต้องเตรียมตัวหา ความรู้ให้พร้อม ประการที่ ๔ วิริยารัมภะ ความเพียร ความ วิริยอุตสาหะ ทุ่มเทเต็มที่ หนักเอาเบาสู้ เวลาเรา ทำอะไรก็แล้วแต่ เมื่อมีปัญหาอุปสรรคขึ้นมา อย่า เสียเวลานั่งวิตกกังวล ไตร่ตรองดูปัญหาให้รอบคอบ ด้วยความไม่ประมาท เสร็จแล้วให้เดินหน้าทำงาน อย่าอยู่เฉย ถ้าอยู่เฉยนิ่ง ๆ เมื่อไร ก็จะหมกมุ่น อยู่กับเรื่องนั้นไม่รู้จบ กลายเป็นคนขี้กังวลไปเลย เมื่อเรามีปัญหาเกิดขึ้นให้เดินหน้าทำงาน แก้ปัญหา เรื่องนั้น หรือว่าทำงานเรื่องใหม่ที่สำคัญยิ่งขึ้นไปอีก เพราะเราลุยทำงานใจจะไปจรดอยู่กับงาน แล้วก็
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More