อานิสงส์การบวชพระและประวัติศาสตร์ของเทพอเนกวรรณ วารสารอยู่ในบุญ ประจำเดือน มกราคม พ.ศ.2553  หน้า 9
หน้าที่ 9 / 104

สรุปเนื้อหา

บทความนี้ว่าด้วยเรื่องอานิสงส์จากการบวชพระที่มีมากมาย โดยระบุว่า การบวชมีผลบุญที่เป็นที่เสน่ห์ของจิตเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ส่วนเทพบุตรอเนกวรรณได้รับการกล่าวถึงอย่างโดดเด่นในฐานะเทพที่มีรัศมีกายเปล่งปลั่ง ทำให้แม้กระทั่งพระอินทร์ต้องรู้สึกละอายใจ นอกจากนี้ยังมีการอุปมาภูเขาหินเพื่อแสดงถึงระยะเวลาของกัปที่ยาวนาน ในคัมภีร์มีข้อมูลว่าบุคคลใดบวชก็จะได้รับอานิสงส์ปริมาณที่แตกต่างกันตามระดับของการบวช

หัวข้อประเด็น

-อานิสงส์การบวชพระ
-เทพบุตรอเนกวรรณ
-พุทธศาสนา
-การบวชและผลบุญ
-ประวัติศาสตร์เทพแห่งสวรรค์

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ตัวเองก็คาดไม่ถึง ทำให้เมื่อท่านละโลกแล้วได้ไป เสวยสุขอันเป็นทิพย์ ได้เป็นเทพบุตรมีศักดิ์ใหญ่ มีอานุภาพมาก เป็นผู้ที่เหล่าเทวดาผู้มีศักดิ์ใหญ่ แม้กระทั่งท้าวสักกเทวราชก็ยังต้องมาชื่นชมบารมี ท่านบันเทิงอยู่ในท่ามกลางหมู่ทวยเทพในสวรรค์ ชั้นดาวดึงส์เป็นเวลายาวนานมาก จนเมื่อครบอายุ ของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ก็จุติไปอุบัติในสวรรค์ชั้นสูง ๆ ขึ้นไป นิง พวกทวยเทพ ครั้นมาในสมัยพุทธกาล ท่านย้อนกลับมา บังเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์อีกครั้งหนึ่ง ต่างเรียกเทพบุตรท่านนี้ว่า อเนกวรรณเทพบุตร หมายถึง เทพบุตรผู้มีรัศมีกายเปล่งปลั่งสว่างไสว เวลาจะท่องเที่ยวไปไหน รัศมีกายของท่านจะกลบ รัศมีของเทพองค์อื่น ๆ แม้กระทั่งพระอินทร์ยังต้อง หลบเข้าไปอยู่ในเวชยันตปราสาทของตัวเอง จนกว่า เทพบุตรท่านนี้จะผ่านไป ด้วยเกิดความละอาย ที่ตนเองเป็นถึงจอมเทพ แต่มีรัศมีกายน้อยกว่า อเนกวรรณเทพบุตร อานิสงส์การบวชพระ จะเห็นได้ว่า บุญใหญ่จากการบวชพระนั้น มีอานิสงส์มากมาย ปิดอบาย ไปสวรรค์ มีความสุข ในปัจจุบัน ในคัมภีร์ได้บันทึกเอาไว้ว่า “บุคคลใดมี จิตเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาได้อนุญาตให้บุตรบวช ถ้าบวชเป็นสามเณร ได้รับอานิสงส์ ๑ กัป ถ้าบวช เป็นพระได้รับอานิสงส์ ๑๖ กัป ส่วนบุคคลใดมีจิต เลื่อมใสแบบญาณสัมปยุตผุดขึ้นเองโดยไม่ต้องมีใคร ชักชวน ถ้าบวชเป็นสามเณร ได้รับอานิสงส์ ๓๒ กัป ถ้าบวชเป็นพระ ได้รับอานิสงส์ ๖๔ กัป ระยะเวลา ๑ กัปนั้น ท่านอุปมาว่า ภูเขาหิน แท่งทึบ หนา ๑ โยชน์ กว้าง ๑ โยชน์ สูง ๑ โยชน์ เมื่อครบ ปี มีผู้เอาผ้าทิพย์สีขาวอ่อนนุ่ม ๑๐๐
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More