พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระพุทธศาสนา  วารสารอยู่ในบุญประจำเดือน กรกฎาคม พ.ศ.2558 หน้า 75
หน้าที่ 75 / 140

สรุปเนื้อหา

พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ทรงมีควาามรู้ลึกซึ้งในพระไตรปิฎกและหลักธรรมของพระพุทธศาสนา ทรงส่งเสริมการศึกษาพระปรีฏิธิธรรมและวัตรการปฏิบัติของสงฆ์ให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัย นอกจากนี้ทรงมีพระราชนิพนธ์บทสวดภาษาบาลีที่ยึดถือมาอย่างยาวนาน จึงสร้างความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในพุทธศาสนาในประเทศไทยในสมัยพระองค์

หัวข้อประเด็น

-วิสัยทัศน์ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
-ความเชี่ยวชาญในพระพุทธศาสนา
-การส่งเสริมการศึกษาในพระพุทธศาสนา
-บทบาทของภาษาบาลีในพุทธศาสนา
-การปฏิบัติตามพระธรรมวินัย

ข้อความต้นฉบับในหน้า

พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ทรงเปี่ยมไปด้วยพระปรีชาสามารถทั้งทางโลกและทางธรรม อันสุดผสานกันนำพาประเทศให้ก้าวผ่านยุคอิทธิพลตะวันตกเริ่มเข้าในแผ่นดิน โดยเฉพาะความรู้ด้านการพระศาสนา ทรงเป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีที่มีความรู้เรื่องพระไตรปิฎกอย่างลึกซึ้ง และเป็นพระมหากษัตริย์ไทยพระองค์ที่ 2 ที่มีความรู้แตกฉานในหลักธรรมของพระพุทธศาสนาอย่่างถ่องแท้ ถัดจากพระมหากษัตริย์ในพระราชวงศ์จักรีพระองค์แรกซึ่งเป็นพระมหากษัตริย์ไทยพระองค์ที่ 1 ที่มีความรู้แตกฉานในหลักธรรมของพระพุทธศาสนาอยู่ดั่งเท็ นี้เพราะทรงผนวชเป็นภิฏุกในบรรพระพุทธศาสนาอยู่ยั่งยืนยาวพระราชสมภพได้ ๒๗ พรรษา จนพระชนมายุ ๔๗ พรรษา จึงทรงลาพระบวชเพื่อสิ้นสุดราชันสังสมระยะเวลาครองสมเด็จพระกษัตริย์ในสมณเพศตลอดรัชสมัยแผ่นดินรัชกาลที่ ๓ มียิ่งกว่าระยะเวลาในพระพุทธศาสนาอย่างมากมาย เจ้าพามากรุกทรงดำรงอยู่ในสมณเพศตลอดรัชสมัยแผ่นดินรัชกาลที่ ๓ มิฉะนั้นทรงเอาพระทัยใส่ศึกษาหงีบสัมมานุสรและค้นธรรอย่างลึกซึ้ง ความแตกฉานในภาษามคของพระองค์เป็นที่เลื่องลือ แม้ขณะนั้นจะทรงสอบพระปรีฏิธิฏิธรรมได้ขั้นประโยค ๑-๕ แต่ทรงพระปรีชาสามารถแปลพระปรีฏิธิฏิธิธรรมในที่ประชุมพระราชาคณะผู้ใหญ่ถวายต่อหน้าพระพักตร์ พระบาทสมเด็จพระนังกะเล่าเจ้าถวายจูบ พระราชวังอิงพระราชทัยในความรู้ของพระองค์ และมีพระราชศรัทธาอวดอวดเปรียญ ๙ ประโยค เพื่อเฉลิมพระเกียรติ และโปรดกล่าว ๆ แต่งตั้งให้เป็นพระราชาคณะและกรรมการในการสอบไล่พระปรีฏิธิธิธิธรรมพระภิกษามณเฑดในเวลาต่อมา ความเชี่ยวชาญในภาษามคทำให้เจ้าฟ้ามากรุกทรงศึกษาพระไตรปิฎกได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน เมื่อพิจารณามาถึงพระวินัยปิฎก ทรงเล็งเห็นว่าแบบแผนความประพฤติของคณะสงฆ์ในขณะนั้นมีความวิปลาสคลาดเคลื่อนจากพุทธบัญญัติเดิมอยู่มาก จึงทรงส่งเสริมการศึกษาพระปรีฏิธิธิธรรมและวัตรปฏิบัติของพระสงฆ์ให้เครงครัดบริสุทธิ์ถูกต้องตามพระธรรมวินัย เช่น การครองผ้า ของพระภิกษุสามเณรตามเสติวัตรแห่งพระวินัย การแสดงอาบัติ การทำพินัย ฯลฯ และทรงพระราชนิพนธ์บทสวดภาษาบาลีตั้งธรรมเนียมว่าตรเข้าและเย็นขึ้น ซึ่งทรงพระราชนิพนธ์นี้ยังคงใช้มาจนถึงปัจจุบัน แบบแผนธรรมเนียมที่พึงปฏิบัติเป็นแบบอย่างตั้งแต่ยังทรงผนวชจนถึงปัจจุบันเป็นแบบอย่างตั้งแต่ยังทรงผนวชจนถึงปัจจุบันเป็นแบบอย่างตั้งแต่ยังทรงผนวชจนครร่งซึ่งแกล้วราชสมบัติเป็นการสิ้นอายุพระพุทธศาสนาในประเทศไทยไดรุงเรื่องขึ้นอีกวะหนึ่งสมัยดั่งพระราชกฤตุที่ตั้งไว้ด้วยแแน
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More