การมองโลกและชีวิตผ่านสัมมาทิฐิ : หน้า 77/98

คนที่สงบ มองเห็นนกเป็นของเล่น ก็ คิดว่า "นกสวยจริงๆ น่าจับมาล็อง" คนที่ลาม มองเห็นนกเป็นสัตว์ที่มี ความทุกข์ ก็คือว่า "มันมีกระรออะไรนะ ถึงต้อง มาเกิดเป็นนก" แม้ภาพที่ทั่ง 3 คนมองเห็นเป็นภาพ เดียวกัน แต่การแปลความหมายขึ้นมาสู่ ความคิด คำพูด และการกระทำ กลับแตกต่างกัน มากมาย ทั้งนี้เพราะแต่ละคนมองสิ่งต่างๆ ในโล้วนี้ผ่านกรอบความคิดที่ต่างกัน ดังนั้น วิธีชีวิตของเราจะดำเนินไปอย่างไร ก็ขึ้นอยู่ กับจุดเริ่มต้น คือ กรอบความคิด หรือความรู้ เข้าใจในเรื่องโลกและชีวิตนั้นเอง หากต้องการให้เส้นทางชีวิตพบกับ ความสุขและความสำเร็จที่แท้จริง ปัจจัยสำคัญ ที่ต้องคำนึงถึงก็คือ การมองโลกและชีวิตให้ ถูกต้องตามความเป็นจริง หรือเรียกอีกอย่างว่า "สัมมาทิฐิ" สัมมาทิฐิเป็นสิ่งสำคัญเราจะต้องศึกษา เมื่อมีความเห็นที่ถูกต้องแล้ว การดำเนินชีวิต ก็จะเป็นไปอย่างถูกทาง ความคิด คำพูด และ การกระทำ ก็จะปรากฏออกมาในทางที่ดีงาม คนเราควรจะมีความเข้าใจในด้านวิชาการ ทางโลกเป็นพื้นเรื่อง แต่ความเข้าใจถูก เหล่านั้นยังไม่ด้เป็นสัมมาทิฐิ ยังไม่สามารถ เป็นพิ้งแก้ตัวเองหรือคนอื่น ๆ ได้ ตัวอย่างเช่น บางท่านอาจมีความเข้าใจ ถูกในเรื่องของดาราศาสตร์ ในเรื่องเทคโนโลยี จนกระทั่งสามารถไปดวงจันทร์ ไปดวงดาว ต่าง ๆ ได้ บางท่านอาจจะมีความเข้าใจถูก ในเรื่องการแพทย์ ในเรื่องของการคำนวณ รวมทั้งเรื่องการปกครอง แต่ยังไม่เรียกว่า เป็นสัมมาทิฐิ แม่เรียนปริญญาเอก เป็น ศาสตราจารย์ นายกรัฐมนตรี ประธานองค์กร ธนาคาร ฯลฯ ก็เป็นของเล่น ก็เช่นกัน หากต้องการให้เส้นทางชีวิตพบกับ ความสุขและความสำเร็จที่แท้จริง ปัจจัยสำคัญ ที่ต้องคำนึงถึงก็คือ การมองโลกและชีวิตให้ ถูกต้องตามความเป็นจริง หรือเรียกอีกอย่างว่า 'สัมมาทิฐิ' หรือเป็นมหาเศรษฐี ก็ไม่ได้หมายความว่า เขาจะเป็นสัมมาทิฐิ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงกล่าวถึง เรื่องความร่มเย็นเป็นสุขของประชาชนไว้ หลายแสนและเมื่อดรัครงใดจะทรงสัมมาทิฐิ เป็นเบื้องต้นทุกครั้งไป มีตัวอย่างดังนี้ "ดู่อนิกฤทธิ์หลาย ๆ บุคคลแต่ละ เมื่อ- เกิดขึ้นในโลก ย่อมเกิดขึ้นเพื่อเป็นประโยชน์' แก่กูล เพื่อความสุขแก่ตนเป็นอันมาก เพื่อ ประโยชน์หอุดม (เกื้อกูล) แก่เทพนา และ มนุษย์ทั้งหลาย บุคคลคนเดียวคือใคร คือ บุคคลผู้เป็นสัมมาทิฐิ มีความเห็นไม่วิปลิต เขา ทำให้คนเป็นอันมากออกจากอธรรม ให้