การเกิดใหม่และบวชในพระพุทธศาสนา  วารสารอยู่ในบุญประจำเดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.2564 หน้า 88
หน้าที่ 88 / 141

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาเกี่ยวกับการกลับมาเกิดเป็นมนุษย์และการบวชภายหลังการฟังธรรมจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า บ่งบอกถึงการสร้างบุญและผลบุญในอนาคต รวมทั้งประวัติศาสตร์และวรรณกรรมที่ชี้ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของการตกแต่งหินและวัสดุต่างๆ ในวัฒนธรรมไทย โบราณที่มีอิทธิพลจากจีน การออกแบบและตกแต่งได้พัฒนาขึ้นตามวัตถุประสงค์ในการใช้สอย และยังมีการสร้างผลงานพุทธศิลป์ต่างๆ ที่แสดงให้เห็นถึงความงามและความหมายของพระธรรมในพระพุทธศาสนา

หัวข้อประเด็น

-การบวชในพระพุทธศาสนา
-การเกิดใหม่
-ผลบุญจากการถวายธรรม
-ประวัติศาสตร์ของการตกแต่งหิน
-อิทธิพลจากจีนในวัฒนธรรมไทย
-พุทธศิลป์และการออกแบบ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ครั้นกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง เมื่อได้ฟังธรรมจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วจะออกบวชและได้บรรลุธรรม และในที่สุดหากผู้ถวายตั้งจิตปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าองค์ใดพระองค์หนึ่งในอนาคต ผลบุจาการถวายดูพระธรรมนี้ จะเป็นพลับจับใจเด็กหนุนให้เข้าใกล้พระภูปฺในภายภาคหน้า อนึ่งสิ่งที่กล่าวไว้ในวรรณกรรมรูปปฐพีแห่งกรรมนั้นคือ ทำให้ฉันเป็นฐานได้ว่า ชาวสยามน่ะรู้จักการสร้างและตกแต่งหินหรือดูพระธรรมเพื่อถวายเป็นตนสมบัติ มาก่อนหน้านั้นแล้ว แต่ไม่มีหลักฐานปรากฏเป็นประวัติที่มาได้จากหลักฐานข้างเคียง ตัวอย่างเช่น ข้อความในปรากฎในหนังสือสารานุกรมไทยฉบับเยาวชน ซึ่งกล่าวไว้ว่า ในจารึกปราสาทพระขรร ที่จารึกภาษาสันสกฤตด้วยอักษรขอม พ.ศ. ๑๓๘๔ พบมีเมืองพระนคร ประเทศกัมพูชา ปรากฎว่า “หินจีน ๒๖๐ ใบ” และปรากฎชื่อเมืองของอาณาจักรโบราณ ซึ่งนักโบราณคดีเชื่ออายุในเขตสยามประเทศ นี้เป็นหนึ่งในหลักฐานที่คาดคะเนได้ว่า หมู่บ้านในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ดังใช้พิธีนับตั้งแต่ประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๔ ซึ่งตรงกับสมัยไบฑุ์ ทีมในช่วงแรกที่ได้รับอิทธิพลจากจีน ที่บรรจุเสื้อผ้าหรือสิ่งของเครื่องใช้ เมื่อนิยมใช้สีทอเตรด้วย จึงเริ่มมีการตัดแปลงออกแบบให้เหมาะกับประโยชน์การใช้สอยในชีวิตของคนไทย หากเป็นนิบหรือดูของชนชั้นสามัญทั่วไป วัสดุและการตกแต่งอาจไม่วิจิตรหรูหรา แต่ว่าเป็นของชนชั้นสูงย่อมใช้อว์คุณภาพดีและตกแต่งอย่างวิจิตรรจรง โดยเฉพาะหีบและฉนุนสร้างขึ้นเพื่อรองรับพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า วัสดุและการตกแต่งยังอนุญาตให้ประดิษฐ์ง่ายขึ้นไป เกิดการสมานเป็นผลงานพุทธศิลป์ ที่แม้เท็จจริง เก็บไว้ในหอไตรตามอารามต่างๆ จากบันทึกเหลี่ยมลูกตาที่ได้รับอิทธิพลจากจีน ก็ปรับเป็นพระธรรมรงสีเหลี่ยม ด้านล่างทำฐานสอบเข้า ส่วนปากทีก็เผอออก มีฝารอบปิดด้านบน มีลูกด้วย โล่ห์ด้านข้างทั้ง ๒ ด้าน หรือพัฒนาจากที่กลายเป็นตุ้ตั้งอากรต่อยอดลงมา ๔ มุม ตู้ด้านบนสอบเข้า ด้านหน้าด้านหลังกว้างกว่าด้านข้างมีประตูปิดเปิด ๓ บาน ภายในเป็นชั้นไม้สำหรับวางทอดเป็นภริสไบน ๓-๔ ชั้น ขนาดของตู้แตกต่างกันไป จะแบกตามลักษณะของ “เก่า” หรือ “ฐาน” ได้ แขนแบบ
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More