ข้อความต้นฉบับในหน้า
ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี อธิบายลักษณะของตุพระธรรมในหนังสือ "ตุลายดน้ำ" ว่า "ตุพระธรรมที่แท้จริงนั้น มีทรงเป็นรูปสีเหลี่ยมลูกบาศ์ ด ส่วนบนสอบ มีขาตั้งตรงมุม ๙ ขา ยาวจากมุมของตุตาลไปประมาณ ๑๕ หรือ ๒๐ นิ้ว โดยทั่วไปขาของตุพระธรรมนัน ส่วนมากตกแต่งเป็นลายดั่งา หราทำเป็นลายจำหลักไม้บ้างแต่เป็นส่วนบน แม้ว่าตะธรรมจะมีขนาดแตกต่างกันอยูมากก็ตาม ขนาดเฉลี่ยโดยทั่วไปสามารถประมาณได้ดังนี้ คือ สูง ๕๐ นิ้ว กว้าง ๔๐ นิ้ว และลึก ๓๐ นิ้ว ขาตุ๋ยวา ๑๕ หรือ ๒๐ นิ้ว" (ตุ้าลายดน้ำ, ๒๕๓๖: ๑๒)
ตุพระธรรมที่หลงเหลืออยู่ในปัจจุบันสามารถแบ่งออกได้เป็น ๓ สมัย คือ สมัยอยุธยา สมัยธนบุรี และสมัยรัตนโกสินทร์ แม้ตุพระธรรมจะแตกต่างกันด้วยยุคสมัยและรูปแบบการตกแต่งทางศิลปะ แต่สิ่งที่แน่นอนตรงกันคือ ความตั้งใจของทยายกษัตริย์ได้นำไปสร้าง เมื่อพระพุทธสาสนาล่วงแล้ว ๒๐๓๔ พระนาม ปีจะสุดตกล เป็นเงินตราขอให้เป็นปัจจัยแก่พระนิพพานเกิด"
บุญเตือน ศิริวรรณ. รามเกียรติจากตุลายดน้ำ. กรุงเทพฯ: สำนักงานวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร, ๒๕๕๕.
ศิลป์ พระศรี. เรื่องตุลายดน้ำ. พระนคร: กรมศิลปากร, ๒๕๐๓.
อวิฑูรย์ อุดมพิพัฒน์. ลายดินน้ำ. กรุงเทพฯ: เมืองโบราณ, ๒๕๕๕.
๘๘ อยู่ในบุญ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑