การเรียนรู้และการปรับตัวในพระพุทธศาสนา  วารสารอยู่ในบุญประจำเดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.2564 หน้า 107
หน้าที่ 107 / 141

สรุปเนื้อหา

เนื้อหานี้พูดถึงการพัฒนาตนเองในพระพุทธศาสนา โดยกล่าวถึงการเป็นน้องใหม่หรือพระนวะในช่วงปีแรก และความสำคัญของการปรับตัวในช่วงเวลาการบวช รวมถึงการใช้เวลาฝึกฝนเพื่อแก้ไขนิสัยที่ไม่ดี การเรียนรู้ที่จะเป็นพระเถระและปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการฝึกฝน.

หัวข้อประเด็น

-การปรับตัวในพระพุทธศาสนา
-การบวชใหม่และพระนวะ
-การฝึกฝนและเวลาที่ใช้
-การพัฒนาเป็นพระเถระ
-การแก้ไขนิสัย

ข้อความต้นฉบับในหน้า

เฉยว่า Sophomore ตอนนี้ถ้าผิดต้อง ถูกด่านกุลลงโทษแล้ว เพราะถือว่าาควรจะ ปรับตัวให้พอประมาณ พอปี 1 เรียกว่า Junior ปี 2 เรียกว่า Senior ควรนี้ถ้าผลทำ ผิดระเบียบ ผิดวินัย ต้องถูกลงโทษหนีงั้น ตามลำดับ ไม่มีการลงอาญาแล้ว ในทางพระพุทธศาสนาก็เช่นกัน ผู้ที่เข้ามา บวชใหม่ในปีแรกเรียกว่า พระนวะ มีฐานะ เป็นเมื่อน้องใหม่ แต่ช่วงเวลาการเป็น น้องใหม่ของท่านไม่ใช่ปีเดียว โดยเฉลี่ยก็ 4 ปี แม้ช่วงฝึกตัวนานอย่างนี้ก็ว่าจะเป็นนิสัย ที่ไม่ดีหมด อย่างมากก็ได้เพียงอย่างสองอย่าง ทำไมจึงเป็นอย่างนั้น? ก็ไม่ต้องไปถามใคร ถามตัวเราเองนี่แหละ เราๆในม่านคุนันตนสาย มั้ย...รู้ ใคร? ก็รู้ แล้วทำไมไม่พยายามแก้ไข ก็พยายามแก้ไขจนณอพักปลูกฝังไปหลายเรือน แล้วก็หยุดไม่ค่อยสำเร็จ นิสัยไม่ดีน่ดน ๆ ก็เช่นกัน ใครทำลิสใจเข้มแข็งก็แก้ได้เร็ว แต่ใครที่ กำลังใจอ่อนปวดเปียกต้องใช้เวลามากน่อย อย่างไรก็ได้ ท่านว่านควรแก้ตัวเองให้ได้ภายใน เวลา 5 ปี พันช่วงเวลาการเป็นพระนวะเข้าพรรษา ที่ 6-10 เรียกว่า พระมึมมิ มึมมิ แปลว่า ปานกลาง มีเหตุว่าจะแก้ไขตัวเองได้ สักครึ่งค่อนแล้ว พระชที่ 11-20 เรียกว่า พระเถระ เกินกว่าปกติขึ้นเป็นพระผู้ใหญ่ ระดับครูอาจารย์ ความสำรวงของถนาน ก็มากขึ้นเป็นลำดับ แต่ยังอย่างนั้นตราบใดที่ยัง ไม่หมดก็เลย ท่านก็ยังมีโอกาสททำผิดพลาด พลังผลในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้างเป็นธรรมดา ในเรื่องของการต่อส้าหานี้ พระสัมพุทธ สัมพุทธเจ้าทรงเล่าถึงการบิณฑบาตครังแรก
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More