ข้อความต้นฉบับในหน้า
1. วันนี้เป็นวันขึ้นเต็มดวง เสวยมาร-
กษา
2. พระภิษุฤๅ ๑,๒๕๕ รูป มาประชุมกัน
โดยมีได้นตาย
3. พระภิษุสูงมีเหล่านั่นล้วนเป็นพระ-
อรหันต์ผู้ได้ฌาณญาณทั้งสิ้น
4. พระภิษุเหล่านี้เป็นผู้ได้รับการ อุปสมบทแบบอดิศกุจฺฉนสมปะทา คือ ได้รับ การบวชจากพระสัมภาษณ์โดยตรง ทั้งสิ้น
จากจูงึสันนิบาต คือ การประชุมใหญ่ ของเหล่าพระธิษฎีลพ คืบเป็นประเด็นของ พระพุทธเจ้าพระองค์ใดองค์หนึ่ง แต่มีรายละเอียด ที่ต่างกันในเรื่องของจำนวนครั้งที่ประชุมและ จำนวนของพระภิษุที่ประชุม เช่น ยุคพระวิสาขะเจ้ามีการประชุม ๓ ครั้ง ครั้งที่ ๑ พระสาวกประชุมกัน ๓,๘๔๙ รูป ครั้งที่ ๒ ประชุม ๑๐๐,๐๐๐ รูป ครั้งที่ ๓ ประชุม ๘๐,๐๐๐ รูป ยุคพระสิปฏิพุทธเจ้ามีการประชุม ๓ ครั้ง ครั้งที่ ๑ ประชุม ๘๐,๐๐๐ รูป ครั้งที่ ๒ ประชุม ๘๐,๐๐๐ รูป ครั้งที่ ๓ ประชุม ๗๐,๐๐๐ รูป ยุคพระเวสสภูท่านมีการประชุม ๑ ครั้งที่ ๑ ประชุม ๘๐,๐๐๐ รูป ครั้งที่ ๒ ประชุม ๖๐,๐๐๐ รูป ยุคพระกัสสปท่านมีการประชุม ๑ ครั้งเดียว มีกำําร่วมประชุม ๘๐,๐๐๐ รูป ยุคพระโณคมพุทธเจ้ามีการประชุม ครั้งเดียว มีกำําร่วมประชุม ๓๐,๐๐๐ รูป ยุคพระกัสสปท่านมีการประชุม ครั้งเดียว มีกำําร่วมประชุม ๒๐,๐๐๐ รูป ในการประชุมใหญ่ครั้งแรกนั่น สิ่งที่ พระพุทธเจ้าทรงแสดง คือ โอวาทปาฏิโมกข์
5. โอวาทปาฏิโมกข์พระผู้ปฏิบัติบัญญัติพระพุทธเจ้าทรงแสดง ครั้งแรกในวันมาฆบูชา ประกอบด้วยจากตรงรังสันนิบาตและแสดงตลอดปฐมโพธิกา คือ ๒๐ พระบรมแรกนี้(อรรถกถาแสดงว่า พระพุทธเจ้าทรงแสดง “โอวาทปาฏิโมกข์” นี้ ท่ามกลาง ที่ประชุมสงฆ์ตลอด ๒๐ พระบรมแรก หลังจาก นั้นทรงบัญญัติให้พระสงฆ์แสดง “อานาปิ
ปิติอุปสมบท” แทน) ถือเป็นหลักธรรมสำคัญใน พระพุทธศาสนา ที่อาจเรียกว่า “เป็นการ ประกาศดังศาสนา” ก็ได้ เพราะให้ซึมำการน หลักการ และวิธีการแก่วิทย์ ดั่งนี้
อุดมการณ์
บทดี ปร่ม ๆ ตีติขา
บทนี้ คือ ความอดกลั้น เป็นตนอย่างยิ่ง
นิพพาน ปร่ม วนติ พทา
พระพุทธเจ้าทั้งหลายกล่าวว่า
นิพพานเป็นธรรม
น ทิ ปุพพิโต ปุรามาติ
ผู้ทำร้ายผู้อื่น ไม่อายว่าเป็นบรรพิติ
สมณ โวติ ปริน วิฉลยุโทตุ
ผู้เบียดเบียนผู้อื่น มิอาจอาเป็นสมณะ
หลักการ
สูทําปาสูจ อกรณี
การไม่ทำความวุ่นวาย
กุสลสุปมาท
การบำเพ็ญแต่ความดี ๑
สุดโตปโยนโน
การทำจิตของตนให้ผ่องใส ๑
เอต์ พุทธาน สานํ
นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย