ข้อความต้นฉบับในหน้า
ที่ใจกลางเมือง ๑ แห่ง และที่บริเวณประตูคฤหาสน์
ของท่านอีก ๑ แห่ง ท่านได้บริจาคทานทุกวัน และ
รักษาอุโบสถศีลเป็นนิจ วันหนึ่งขณะคนรับใช้กำลัง
นำอาหารเช้ามีรสเลิศมาให้ท่านเศรษฐี พระปัจเจก
พุทธเจ้าองค์หนึ่งเพิ่งออกจากนิโรธสมาบัติ เหาะมา
ทางอากาศเพื่อโปรดท่านเศรษฐี
พระปัจเจกพุทธเจ้าได้ยืนอยู่ที่ซุ้มประตู
คฤหาสน์ ท่านเศรษฐีเห็นพระปัจเจกพุทธเจ้าแต่ไกล
และปรารถนาจะถวายทาน ทันทีที่คิดจะทำความดี
มารผู้มีใจบาปทนไม่ได้ ถึงกับสั่นสะท้านคล้ายคนไข้
ที่แสลงน้ำเย็น คิดว่า “พระปัจเจกพุทธเจ้าไม่ได้ฉัน
อาหารมา ๗ วันแล้ว วันนี้หากไม่ได้อาหารก็จะ
ต้องปรินิพพานเราจะทำให้พระปัจเจกพุทธเจ้าพินาศ
ให้ได้” จึงรีบตรงไปบ้านท่านเศรษฐี และเนรมิตหลุม
ถ่านเพลิงกว้าง ๔๐ ศอก มีเปลวไฟร้อนแรงแดง
ฉานลุกโพลงจากใต้พิภพ
เศรษฐีให้คนใช้ไปรับบาตรจากพระปัจเจก
พุทธเจ้า คนใช้เห็นเหตุการณ์นั้นก็ตกตะลึงด้วยความ
หวาดกลัว รีบกลับไปรายงานท่านเศรษฐี ท่านเศรษฐี
ได้ส่งคนอื่น ๆ ไปอีก ทุกคนต่างหวาดกลัวพากัน
หนีกลับเช่นกัน ท่านเศรษฐีจึงคิดว่า “พญามาร คือ
ผู้ขัดขวางความดี ต้องการจะทำลายทานของเรา
แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น วันนี้เมื่อเราตั้งใจทำความดี
แล้ว เราจะต้องทำให้สำเร็จ แม้ว่าจะมีมารมาเป็นร้อย
เป็นพัน หรือเป็นแสนก็ตาม ก็ขัดขวางการให้ทาน
ของเราไม่ได้”
ท่านเศรษฐีจึงถือถาดอาหารไปยืนอยู่ที่ปาก
หลุมถ่านเพลิง เห็นมารยืนอยู่ในอากาศ จึงถามว่า
“ท่านเป็นใคร” “เราคือมาร” “หลุมถ่านเพลิงนี้ท่าน
เนรมิตขึ้นหรือ” เมื่อมารยอมรับ ท่านจึงถามต่อว่า
“ท่านเนรมิตเพื่ออะไร” มารตอบว่า “เราต้องการทำ
อันตรายต่อทานของท่าน และต้องการให้ชีวิตของ
พระปัจเจกพุทธเจ้าดับสิ้นไป
ท่านเศรษฐีกล่าวด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยวว่า “ใคร
ก็ขัดขวางการให้ทานของเราไม่ได้ แม้เราจะต้อง
ตกลงไปในหลุมถ่านเพลิง มีหัวดิ่งลง เอาเท้าชี้ฟ้า
P