ข้อความต้นฉบับในหน้า
ความรักที่จะเกิดผลดีต้องเปลี่ยน
พลังขับเคลื่อนที่รุนแรงให้เป็นไป
ในทางสร้างสรรค์ให้ได้
เราเตลิดไป จะเกิดผลเสียได้เยอะ แต่ถ้าความรักเกิด
คู่กับความรับผิดชอบ เราสามารถเปลี่ยนอารมณ์นี้
ไปในทางสร้างสรรค์ได้ มีพระผู้ใหญ่รูปหนึ่งท่าน
ฟังเรื่องนี้มาจากพระอาจารย์ของท่านซึ่งเคยเป็น
อุปัฏฐากหลวงปู่วัดปากน้ำ ท่านเล่าว่า นายห้างสวัสดิ์
โอสถานุเคราะห์ ซึ่งเป็นนักธุรกิจใหญ่ที่ประสบความ
สำเร็จมาก ตอนยังหนุ่มมีฐานะธรรมดา แต่ฝ่าย
ภรรยา คือคุณหญิงล้อม เป็นลูกเจ้าสัวมีฐานะดีมาก
ทั้งสองเกิดพึงใจกัน แต่ว่าผู้หญิงสมัยก่อนจะทำ
อะไรก็ต้องฟังคุณพ่อคุณแม่ คุณพ่อคุณแม่ไปหา
หมอดู หมอดูทุกคนบอกว่าแต่งไม่ได้ แต่งแล้วจะแย่
จะล่มจม อะไรต่าง ๆ นานา แต่คุณพ่อคุณแม่
ของฝ่ายหญิงไปกราบเรียนถามพระเดชพระคุณ
หลวงปู่ว่าจะเอาอย่างไรดี พระเดชพระคุณหลวงปู่
ท่านหลับตานิ่ง ๆ พักเดียว ท่านบอกว่า แต่งแล้ว
จะรวย สวนกระแสหมอดูทั้งหมด
ความที่คุณพ่อคุณแม่ฝ่ายหญิงเคารพหลวงปู่
มาก ก็เลยอนุญาตให้แต่ง ฝ่ายหญิงฐานะดี ฝ่ายชาย
ธรรมดา แต่พอแต่งแล้ว จากความรักที่มาพร้อมกับ
ความรับผิดชอบ ฝ่ายชายรู้สึกว่า ฝ่ายหญิงเหมือน
ดอกฟ้าโน้มกิ่งมาหาเรา ให้เกียรติเราขนาดนี้ เรา
ต้องทุ่มเททำงานอย่างหนัก วิริยอุตสาหะรับผิดชอบ
ครอบครัว ให้เกียรติฝ่ายหญิงตลอดชีวิต ฝ่ายหญิง
เองก็เป็นหญิงแม่ศรีเรือน ฝ่ายชายหาทรัพย์มามอบ
ให้ฝ่ายหญิงดูแล ให้เป็นใหญ่ในบ้าน ฝ่ายหญิงก็
จัดการดูแลทุกอย่างอย่างดี เอาเงินไปซื้อที่ซื้อทาง
ลงทุนทุกอย่างจนเจริญงอกงามขึ้นมา สุดท้ายกลาย
เป็นมหาเศรษฐีเลย นี่คือการเปลี่ยนพลานุภาพของ
ความรักที่มาพร้อมกับความรับผิดชอบ ให้เป็นพลัง
ขับเคลื่อนไปสู่ความวิริยอุตสาหะในการสร้างฐานะ
แต่ถ้าเป็นความรักแบบหนุ่ม ๆ สาว ๆ วูบวาบไป
ชั่วคราว บางทีผ่านไปคืน 6 คืน ยังไม่รู้ว่าอีกฝ่าย
ชื่ออะไร อย่างนี้แย่แน่ ๆ
เพราะฉะนั้นอย่าดูเบาเรื่องความรัก เพราะถ้า
เกิดขึ้นมาแล้วฤทธิ์เดชมันมากเหลือเกิน พระพุทธเจ้า
ท่านตรัสไว้เลยว่า สิเน่หาคือยางเหนียว ใบเดียวติด
อารมณ์นั้นเลย ไม่หลุดไปอารมณ์อื่น รู้อย่างนี้แล้ว
อย่าเผลอใจ เรื่องนี้มันมีจุดเริ่มต้น ให้ระวังตัวไว้ไม่ให้
ถลำลงไป เพราะถ้าถลำใจไปแล้วจะรั้งกลับยากมาก
บางทีหอบข้าวหอบของหนีตามกันไปก็ยังมี ทิ้งพ่อ
ทิ้งแม่ไปด้วยกันเลย เพราะรั้งอารมณ์กลับมาไม่ไหว
ที่สำคัญคือระวังอย่าให้ถลำลงไป วัยเรียนต้องเรียน
อย่าเพิ่งไปยุ่งกับเรื่องนี้ คอยให้จบก่อน
ฟังอย่างนี้บางท่านอาจจะบอกว่าเชย เอาเถิด
ใครเขาจะว่าเราเชยปล่อยเขาไป ถ้าเรารู้จักเวลา
รู้จักวัย นึกถึงคุณพ่อคุณแม่ นึกถึงอนาคตเยอะ ๆ
แล้วเราจะเป็นคนที่มีค่า และประสบความสำเร็จใน
ชีวิตการครองเรือนในอนาคต แต่ถ้าคนไหนปล่อยใจ
ให้วูบวาบไปทั้งที่ยังไม่ถึงเวลา ปล่อยไปตามอารมณ์
โดยไม่นึกถึงความรับผิดชอบ สนุกวันนี้เดี๋ยวจะต้อง
น้ำตาตกวันหลัง มองไกล ๆ รอให้ถึงเวลา ให้เราโต
พ้นวัยการศึกษาเสียก่อน
ช่วงนี้มีกระแสการซื้อของขวัญให้กับคนรัก
อย่างนี้จะมีผลดีกับเศรษฐกิจอย่างไรบ้าง
ถ้ามีการซื้อข้าวซื้อของ ในแง่ของเศรษฐกิจ