ข้อความต้นฉบับในหน้า
ตกกลางคืน เกิดความไม่แน่ใจในสุขภาพว่าจะเดินไปได้ตลอดหรือไม่ เพราะทราบ
กะทันหัน ไม่ได้ฝึกเดินมาก่อน
แต่ต้องรีบตัดความกังวล นอนผ่อนคลายกล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกาย แล้วนึกถึง
หลวงปู่ กลางหลวงปู่มีพระธรรมกายมากมายมหาศาล ผุดขึ้นมาให้นับทีละองค์....
๑ องค์ ...๒ องค์ ...๓ องค์ ๑๐ องค์ ๒๐ องค์ ...๑๐๐ องค์ ...(ชาวโลก
สอนให้นับแกะ แต่ชาวธรรมสอนให้นับพระ)
ราตรีย่อมยาวนาน สำหรับผู้ตื่นอยู่
16.
ๆ
องค์
...mo
เช้าวันที่ ๑๓ ม.ค. ตื่นตี ๔ ฉันน้ำมาก ๆ ทำภารกิจของสังขาร เวลา ๐๖.๐๐ น.
ออกเดินทางจากวัดพระธรรมกาย ถึงวัดบางไผ่ประมาณ ๐๗.๓๐ น. ได้เวลาฉันเช้า
เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอาการจุกตอนเวลาเดิน จึงฉันนิดเดียว ข้าวเหนียว ๓ คำ
กล้วยน้ำว้า ๒ ผล เวลา ๐๙.๓๐ น. เริ่มพิธีอธิษฐานจิตเดินธุดงค์ ด้วยใจที่เชื่อมั่น
เต็มเปี่ยมด้วยกำลังใจว่าจะต้องเดินไปให้ถึงจุดหมายปลายทาง คือ วัดโบสถ์บน วัดที่
หลวงปู่เข้าถึงพระธรรมกาย แต่เมื่อเดินไปได้ประมาณ
๓ กม. รู้สึกว่าแขนข้างซ้ายมี
อาการชาไปทั้งแขน เพราะสายสะพายบาตรมารัดที่หัวไหล่ ทำให้เลือดลมเดินไม่สะดวก
เมื่อเดินมาได้ประมาณ 6 กม. เหลืออีก ๓ กม. ก็จะถึงจุดหมาย มีความรู้สึกว่า
ระยะทางที่เหลือมันช่างยาวไกลมาก ยิ่งคิดยิ่งไกล ไม่ต้องคิด ไม่ต้องกังวลว่าจะถึงเมื่อไร
ทิ้งทุกอย่าง วางใจนิ่ง ๆ ที่ศูนย์กลางกาย ตามองทาง...ใจมองกลาง เดินไปเรื่อย ๆ
กายเริ่มผ่อนคลาย มีพลังมากขึ้นจนถึงจุดหมายปลายทางได้สำเร็จ.... (หลวงพ่อบอก
หลังจากรายงานให้ท่านทราบว่าการเอาใจไว้ที่ศูนย์กลางกายจะเป็นจุดที่มีพลังมากที่สุด)
โยชน์หนึ่งย่อมยาวไกล สำหรับผู้เหนื่อยล้า