ข้อความต้นฉบับในหน้า
วิธีแก้ไขมีทางเดียวก็คือ ต้องกำจัดกิเลสให้หมดไป แต่คำถามที่ตามมาก็คือ กิเลส
อยู่ที่ไหน คำตอบก็คือ กิเลสอยู่ที่ใจ นั่นก็หมายความว่า การที่เราจะกำจัดกิเลสได้ ก็ต้อง
มองเห็นใจของตัวเองก่อน
คำถามที่ตามมาอีกก็คือ ทำอย่างไรถึงจะสามารถมองเห็นใจของเราเอง คำตอบก็คือ
ต้องทำภาวนามาก ๆ พร้อมกับสำรวมกาย สำรวมวาจา และสำรวมในการประกอบอาชีพ
ควบคู่กันไปอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ “ใจบริสุทธิ์” มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ “ธาตุ ๔ ในตัว
บริสุทธิ์” เพิ่มขึ้นตามมา ทุกข์ต่าง ๆ ในร่างกายซึ่งเป็นทางมาของโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ
จากความหนาว ความร้อน ความหิว ความกระหาย ความปวดปัสสาวะ ความปวดอุจจาระ
ก็จะบรรเทาลดลง สิ่งที่ได้เพิ่มมาอีกอย่างก็คือ ได้ “เวลาว่าง” ในแต่ละวันเพิ่มขึ้น เราจะ
ได้ใช้เวลาว่างนั้นไปทำภาวนาปราบกิเลสให้หมดสิ้นไปจากใจ จะได้สิ้นทุกข์ สิ้นกิเลส
สิ้นการเกิด แก่ เจ็บ ตาย สิ้นการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร
แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ทุกวันนี้ก็คือ คนส่วนมากในโลกไม่ค่อยจะมีเวลามาบำเพ็ญ
ภาวนาปราบกิเลสกัน เพราะว่าหมดเวลาไปกับการประกอบอาชีพ ซึ่งวัน ๆ ก็คิดวนเวียน
อยู่ในเรื่องการทำมาหากินบ้าง การทำมาค้าขายบ้าง บางคนก็สำรวมในอาชีพ บางคนก็
ไม่สำรวมในอาชีพ มีการกระทบกระทั่งกันบ้าง แย่งชิงผลประโยชน์กันบ้าง มีความแค้นเคือง
บาดหมางกันบ้าง สิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดปัญหาตามมา ทำให้เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา เสียทั้ง
อารมณ์ และได้กิเลสเพิ่มขึ้นด้วย เผลอไปแวบเดียว เดี๋ยวก็วัน เดี๋ยวก็คืน เดี๋ยวก็แก่ เดี๋ยวก็เจ็บ
เดี๋ยวก็ตาย เดี๋ยวก็ไปเกิดในภพภูมิใหม่อีกแล้ว ยิ่งบางคนต้องแบ่งเวลาให้ลูกเมียไปอีก จึง
ยากที่จะมีเวลาทำภาวนา ในที่สุดก็หมดเวลากันไปชาติหนึ่ง โดยที่มีเวลานั่งทำภาวนาได้
ไม่กี่ชั่วโมง บางคนตลอดชีวิตไม่เคยนั่งทำภาวนาเลยด้วยซ้ำไป
กล่าวโดยย่อก็คือ เวลาชีวิตของชาวโลกสิ้นเปลืองไปกับการหาที่ไม่บริสุทธิ์ การเก็บ
ที่ไม่บริสุทธิ์ การใช้ที่ไม่บริสุทธิ์ ส่งผลให้ปัจจัย ๔ ที่ได้มาก็ไม่บริสุทธิ์ จึงต้องตามแก้ปัญหา
ต่าง ๆ ไม่จบไม่สิ้น โดยเฉพาะถ้าปัญหาบานปลายไปถึงขั้นเป็นศัตรูกันเมื่อไร การจองล้าง
จองผลาญข้ามภพข้ามชาติจะเกิดขึ้นตามมาทันที คู่อาฆาตพยาบาทได้เกิดขึ้นแล้ว จากเรื่อง
การทำมาหากินที่ไม่ควรจะเป็นเรื่องเข่นฆ่ากัน กลายเป็นเรื่องการจองเวรข้ามชาติไปเสียแล้ว
ๆ
นี่คือสิ่งที่มนุษย์เป็นกันอยู่ตลอดเวลาหลายร้อยหลายพันปี ทำให้หมดเวลาไปกับเรื่องขี้หมูรา
ขี้หมาแห้ง โดยลืมเลือนไปว่า เราต้องเกิด ต้องแก่ ต้องเจ็บ ต้องตาย อย่างไม่มีวันจบสิ้น
หากยังไม่รีบปราบกิเลสให้หมดสิ้นไป
ดังนั้น ตั้งแต่โบราณกาลมาแล้ว คนที่เฉลียวใจคิดถึงเรื่องการปราบกิเลสนี้ จึง
ตัดสินใจออกบวช จากเรือนเหมือนนกที่จากคอน ไม่อาลัยอาวรณ์กับลาภ ยศ สรรเสริญ
สุข ในทางโลก เพื่อให้ตนมีเวลาว่างสำหรับการทำภาวนาปราบกิเลสให้มากที่สุด เพื่อให้
การเกิดมาในชาติหนึ่งของตนไม่เสียเวลาเปล่า และสามารถกำจัดกิเลสให้เบาบางลงไป
เรื่อย ๆ จนกระทั่งหมดสิ้นไปในชาติใดชาติหนึ่งเบื้องหน้า
การที่เราได้มาบวชในวันนี้ ย่อมเป็นโอกาสดีที่เราจะได้กำจัดกิเลสในใจด้วยการ