พระคุณแม่และการตอบแทนพระคุณ พระคุณแม่ เล่ม 1  หน้า 5
หน้าที่ 5 / 30

สรุปเนื้อหา

ในโอกาสวันแม่แห่งชาติ หลวงพ่อทตตชีโวได้นำเสนอพระธรรมเทศนาเกี่ยวกับพระคุณแม่และการตอบแทนพระคุณของท่าน ข้อเขียนสำรวจความดีในทางพระพุทธศาสนาและการแบ่งประเภทของคนดีเพื่อกระตุ้นให้ผู้คนประจักษ์ถึงความสำคัญของการแสดงออกถึงคุณงามความดี โดยการตอบแทนพระคุณแม่ผ่านกรรมดีและการประกาศความดีของผู้มีพระคุณ ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนให้ทุกคนตระหนักรู้ถึงพระคุณของผู้ให้และสร้างสรรค์ความดีในสังคม

หัวข้อประเด็น

-พระคุณแม่
-การตอบแทนพระคุณ
-พระธรรมเทศนา
-คุณงามความดี
-พระพุทธศาสนา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

พระคุณแม่ โดย พระภาวนาวิริยคุณ (หลวงพ่อทตตชีโว ) หน้ากัน พระคุณแม่ ขอความเจริญรุ่งเรืองอยู่ในธรรม แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จงบังเกิดแก่ทุกท่าน โดยทั่ว ในโอกาสอันเป็นมหามงคลสมัย วันเฉลิมพระชนมพรรษา ของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ วันที่ 12 สิงหาคม 2530 ซึ่งทางราชการกำหนดให้วันนี้ของทุกปีเป็น วันแม่แห่งชาติ ด้วยอาตมาขอนำพระธรรม เทศนา เรื่อง พระคุณแม่และการตอบแทนพระคุณของท่าน มาแสดงแก่ท่านสาธุชนทั้งหลาย เพื่อเป็นการ ถวายพระราชกุศลแด่พระองค์ ผู้ได้พระสมญานามว่าเป็น แม่แห่งชาติ และเพื่อให้บุญกุศลนั้นถึงแม่ของ พวกเราทุกคนด้วย วันนี้ทั้งวันขอละนะ ห้ามคิดถึงเรื่องอื่น คิดถึงเรื่องแม่เรื่องเดียวว่า ท่านมีพระคุณกับเราในลักษณะไหน บ้าง จะได้มองเห็นทางตอบแทนพระคุณท่านให้ได้ทุกลักษณะไป ปีทั้งปีเราคิดถึงเรื่องอื่นกันมามากแล้ว หลาย คนก็พลาดไป ทั้ง ๆ ที่มีสติปัญญาฉลาดเฉลียว พิจารณาแยกแยะเรื่องต่าง ๆ ได้เป็นกุ้งเป็นแคว แต่ไม่ได้แบ่ง เวลาคิดพิจารณา แยกแยะพระคุณของพ่อ พระคุณของแม่ให้ละเอียดลึกซึ้ง เป็นเหตุให้ละเลย ไม่ได้ตอบแทน พระคุณของท่านให้ถูกให้ควร ซึ่งเท่ากับเสียชาติเกิดความดีทำไว้เท่าไร ๆ ก็ไต่อันดับไม่ถึงที่สุด เป็นคนดีที่โลก ต้องการไม่ได้ ในทางพระพุทธศาสนา ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นคนดีนั้นจะต้องมีคุณสมบัติหลัก ๆ ทั้งในทางโลกและทางธรรม ครบทั้ง 3 ประการ คือ มีปัญญา, บริสุทธิ์, กรุณา หรือพูดอย่างภาษาชาวบ้าน ๆ ว่า ไม่แสบ ไม่โง่ ไม่แล้งน้ำใจ แต่ในบรรดาคนดี ๆ ด้วยกันนั้น ในทางพระพุทธศาสนายังแบ่งคนดีออกเป็นอีก 3 ระดับ คือ ดีแบบประถม ดีแบบมัธยม และดีแบบอุดม คล้าย ๆ กับการแบ่งความรู้ความสามารถของคนตามระดับการ ศึกษานั้นแหละ คนดีแบบประถม คือ คนที่รู้คุณแต่ไม่ตอบแทนคุณ พวกนี้มีสติปัญญาพอวินิจฉัยได้ว่าใครบ้าง เป็นผู้มีพระคุณ แต่เฉยเสียไม่ทำตามกติกา คือรับแต่ฝ่ายเดียวไม่ยอมให้เพื่อเป็นการตอบแทน คนดีแบบมัธยม คือ คนที่รู้คุณแล้วก็ตอบแทนคุณด้วย แต่ไม่ประกาศคุณงามความดีของผู้มี พระคุณให้คนอื่นรู้ เก็บไว้ในใจคนเดียว พวกนี้ดีขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง แต่ใจคอยังไม่กว้างขวาง ได้มาเท่าไรก็ คืนให้เท่านั้น คนดีแบบอุดม คือ คนที่รู้คุณด้วย แทนคุณด้วย แล้วก็ประกาศคุณงามความดีของผู้มีพระคุณ ให้โลกรู้ เพื่อให้คนอื่นได้พลอยชื่นชมและอยากทำความดีตามท่านไปด้วย ท่านผู้มีพระคุณก็เลยได้บุญทับทวี ขึ้นอีก เพราะท่านเป็นต้นแบบแห่งการทำความดี ยิ่งคนทำตามท่านมากเท่าไรท่านก็ยิ่งได้บุญเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น แม้เราที่ช่วยประกาศข่าวการทำความดีของท่านก็พลอยได้บุญไปด้วย เพราะเท่ากับเป็นผู้ขยายวงบุญ ในทางตรงกันข้าม คนไม่ดีคือ คนที่ไม่รู้จักคำว่าบุญคุณใครทำอะไรให้ได้สุขสบาย แทนที่จะสำนึกว่า เป็นบุญคุณ กลับคิดว่าเป็นหน้าที่ที่เขาจะต้องทำให้ ไม่รู้คุณใครทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่ตอบแทนคุณ และ ที่เลวถึงที่สุดถึงขั้นชั่วช้าสารเลว คือ นอกจากไม่รู้คุณ ไม่ตอบแทนคุณแล้ว ยังเนรคุณเสียอีกด้วย 5
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หน้าหนังสือทั้งหมด

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More