ข้อความต้นฉบับในหน้า
พระคุณแม่ โดย พระภาวนาวิริยคุณ (หลวงพ่อทตตชีโว )
อาตมาชี้ให้ดูท่านตั้งแต่เริ่มตั้งท้อง เพราะความรักของแม่น่าอัศจรรย์กว่าใคร ท่านรักเราตั้งแต่ยังไม่
เห็นหน้า ตั้งแต่ยังไม่เป็นตัวเป็นตนด้วยซ้ำ นับแต่แรกที่รู้ตัวว่าตั้งท้อง ท่านก็รักเราเสียแล้ว ประคบประหงม
อย่างดี จะกินจะอยู่ระแวดระวังตัวไปหมด แม้ของชอบถ้ารู้ว่าเป็นอันตรายถึงลูกท่านก็งด ท่านทะนุถนอม
เราโดยไม่กังวลว่า เจ้าคนที่อยู่ในท้องโตขึ้นแล้วจะเกเร จะแสบแค่ไหน แล้วพวกเราบางคนโตขึ้นมาก็แสบ
เสียจนคุณแม่ต้องออกปากว่า
"รู้ว่าออกมาแล้วจะเถียงแม่อย่างนี้ แม่ไม่เบ่งออกมาให้ยากหรอก" บ่นหนักเข้า ลูกหนีออกจากบ้าน
แม่ก็น้ำตาตกไปตามง้อลูกกลับมาอีก... นี่แหละแม่คน
ถึงร้ายก็รัก
ในปัจจุบันมีลูกบางจำพวกคิดน้อยอกน้อยใจพ่อแม่ ว่าไม่ร่ำรวยเหมือนพ่อแม่คนอื่น เท่านั้นยังไม่พอ
เอาปากเป็นหอกเป็นดาบ พูดทิ่มแทงค่อนขอดว่า ท่านไม่ขยันทำมาหากินบ้าง ทำตัวกระจอกงอกหง่อยให้อาย
เพื่อนบ้าง บางคนเคี่ยวเข็ญข่มขู่พ่อแม่ จะเอาโน่นเอานี่ อาละวาดตะบึงตะบอน แต่ถึงแม้ลูกจะร้ายกาจ
เพียงใด ท่านก็สู้หวานอมขมกลืน ใครมาว่าลูกไม่ดีเป็นต้องออกรับป้องกันเต็มที่... ลูกฉันดี ๆ วันยังค่ำ
แต่บางทีลูกเศรษฐีก็มีปัญหาถมไม่เต็ม เมื่อประมาณ 7-8 ปีที่แล้ว มีเศรษฐีคนหนึ่งมาจากภาคใต้
เดินหน้าแห้งเข้ามาหาอาตมา บอกหลวงพ่อช่วยที ลูกชายเกเรเหลือเกิน นอกจากเกเรแล้วยังเคี่ยวเข็ญพ่อแม่
จะเอานั่นเอานี่ ให้ไปแล้วก็ไปทำเสีย ๆ หาย ๆ บางทีได้ไม่ทันใจ ก็ด่าพ่อด่าแม่เข้าอีก ไม่รู้จะทำอย่างไรกับลูก
คนนี้แล้ว
อาตมาก็เลยแนะนำเขาไปว่า เนื่องจากลูกยังไม่เคยปฏิบัติธรรม จะแนะนำอะไรมากก็ไม่ได้ จะบอก
ให้ไปนั่งสมาธิให้ใจใสแล้วไปดูเอาเองว่า พ่อแม่มีพระคุณอย่างไร จ้างก็ไม่ฟัง ก็ขนาดพ่อแม่ยังด่าเสียเลย มี
หรือจะมานั่งสมาธิ เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ก่อนกลับภาคใต้คราวนี้ ให้ชวนลูกชายตัวแสบ ไปสถานเลี้ยงเด็ก
กำพร้าที่ปากเกร็ดเมืองนนท์สักครั้ง จะอ้างว่าอย่างไรก็ตามใจ ให้เขาได้ไปให้ทานเด็กกำพร้าที่นั่นสักมื้อ แล้ว
เขาจะเห็นเอง บางทีบุญจะช่วยให้เขาได้คิด แล้วอะไร ๆ จะดีขึ้นเอง เขาทำตามหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะไม่ได้
กลับมาเล่าให้ฟัง
ทำไมอาตมาจึงแนะนำให้เขาไปที่นั่น เหตุผลก็คือ อาตมาอยากให้ลูกชายของเขา ได้ไปเห็นคนที่ไม่มี
พ่อ ไม่มีแม่บ้าง ว่าเป็นอย่างไร ทารุณจิตใจขนาดไหน อาตมาได้ข้อคิดอะไรหลาย ๆ อย่างและรักพ่อรักแม่
สุดหัวใจ ก็เพราะได้ไปเห็นเด็กพวกนี้เอง
จำได้ว่าตอนนั้นเรียนมหาวิทยาลัยปีสุดท้าย
มีอยู่วันหนึ่งพรรคพวกชวนไปเลี้ยงเด็กกำพร้า ที่บ้าน
ปากเกร็ด ที่นั่นมีเด็กอยู่ประมาณ 200-300 คน มีพี่เลี้ยงดูแลเด็กสัก 20 คน เฉลี่ยพี่เลี้ยงคนหนึ่งก็เลี้ยง
เด็ก 10-15 คน
ๆ
พอพวกเราไปถึง เด็ก ๆ พวกนั้นก็วิ่งเข้ามาตะกาย แย่งกันให้อุ้ม แกเรียกนิสิตชายว่าพ่อ เรียกนิสิต
หญิงว่าแม่ เล่นเอานิสิตหญิงหน้าแดงไปตาม ๆ กัน เขาสอนให้เรียกอย่างนั้น จริง ๆ แล้วแกไม่รู้หรอกว่าใคร
เป็นพ่อ ใครเป็นแม่ เด็ก 3-4 คนตะกายเข้ามากอดเรา ซุกเข้ามาอย่างกับลูกลิง ฟ้องว่า ตลอดชีวิตแก
ไม่เคยได้รับความอบอุ่นเลย อะไรต่ออะไรคงขาดแคลนไปทั้งหมด แกจึงต้องรีบแย่งชิงไขว่คว้าเอาไว้ให้มากที่
สุด เอาขนมไปแจกก็แย่งกันกิน เอาตุ๊กตาไปให้ เนื่องจากเราไม่รู้จำนวนเด็กมาก่อน ซื้อไปแค่ 40-50 ตัว
10