ความรักและความกังวลของแม่ พระคุณแม่ เล่ม 1  หน้า 18
หน้าที่ 18 / 30

สรุปเนื้อหา

เนื้อเรื่องเกี่ยวกับแม่ที่เล่าเรื่องราวความเป็นมาของพ่อให้ลูกสาวฟัง โดยเน้นที่ความสำเร็จและความเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของพ่อหลังจากความมั่งคั่งเข้ามา ทำให้แม่แสดงความกังวลเกี่ยวกับความรักและอนาคตของลูก การสื่อสารความรู้สึกของแม่ที่ต้องการให้ลูกเลือกทางเดินในชีวิตอย่างชัดเจน แม้จะไม่มั่นใจ แต่ก็เต็มไปด้วยความรักและความห่วงใยจากแม่ที่ต้องการให้ลูกเข้าใจหัวอกของผู้เป็นแม่และความซับซ้อนในความรักและการมีคู่ชีวิต โดยให้ข้อคิดว่าความรักมีหลายมิติและต้องใช้เวลาในการเรียนรู้

หัวข้อประเด็น

-ความรักของแม่
-ความกังวลในครอบครัว
-การเลือกคู่ชีวิต
-การสื่อสารในครอบครัว
-ความสำเร็จและพฤติกรรม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ลูกสาวหน้าจ๋อย ตอบว่า "เอ...ก็ พระคุณแม่ โดย พระภาวนาวิริยคุณ (หลวงพ่อทตตชีโว ) ก็หลายเดือนแล้วนะแม่ พ่อไม่ค่อยกลับบ้านเลย" “เออ...นั่นแหละที่แม่ต้องถอนใจ แล้วลูกรู้ไหมเขาไปไหน" "เขาก็ไปอยู่กับเมียน้อยของเขาซิแม่..." เรื่องมันเริ่มคลี่คลายออกมาอย่างนี้ แม่ก็เลยพูดขึ้นว่า "แม่ไม่เคยเล่าให้พวกลูก ๆ ฟังนะ จริง ๆ แล้วพ่อของลูกน่ะ เมื่อ 30 ปี ก่อนโน้น พ่อของลูกก็เป็นลูกจ้างในบ้านของแม่นี่แหละ แล้วก็คุณตาของลูกเห็นว่าพ่อของลูกนี่ เป็นลูกจ้างก็ จริง แต่เป็นลูกจ้างชนิดรักงานมาก รักงานเหมือนยังกับเป็นเจ้าของกิจการเสียเอง ตาของลูกจึงยกแม่ให้กับ พ่อ แต่งงานกันแล้วก็มีกิจการเล็ก ๆ อยู่ในบ้านของเราเอง เป็นกิจการแบบอุตสาหกรรมในครอบครัว ตั้งแต่ แม่กับพ่อแต่งงานกันมา ก็ตั้งใจสร้างฐานะมาด้วยกัน พ่อของลูกน่ะ ตี 4 นี่ตื่นแล้ว น้ำที่ตุ่ม ๆ ก็โอ่ง ๆ พ่อ ตักไว้เต็มหมด พื้นผ่าไว้กองท่วมหัวท่วมหูตั้งแต่เช้ามืดเลย ขยันขันแข็งไม่มีใครเทียบได้ เขาเป็นประเภทอื่น ก่อนนอนหลัง เพราะฉะนั้น หลังแต่งงานมาได้เพียง 5-6 ปี บ้านเราก็มีฐานะมั่นคง แล้วเพียงเข้าปีที่ 10 พ่อของลูกก็เริ่มสร้างโรงน้ำตาล จากไม่มีอะไรก็มีขึ้นมาได้" ถ้าจะถามว่าพ่อของลูกดีไหม ก็ต้องบอกว่าเป็นลูกผู้ชายที่มีความสามารถ มีความเก่งกาจคนหนึ่งที่ เดียวในยุคนี้ ทั้ง ๆ ที่ความรู้ก็แค่ ป.4 แต่ก็สร้างโรงงานน้ำตาลได้ เราสร้างฐานะกันมาอย่างนี้แหละลูกเอ๋ย แต่ก็อย่างที่ลูกเห็นนั่นแหละ แม่ภูมิใจพ่อของลูกมาตลอดแต่ว่าตั้งแต่ 5 ปีที่แล้วมา หลังจากฐานะของเรา เป็นปึกแผ่นแล้ว พ่อของลูกก็มีความประพฤติอย่างที่เห็น คือ ไม่ค่อยกลับบ้าน มีบ้านเล็กบ้านน้อยมันเรื่อยไป แล้วก็ชักทำท่าจะไปกินเหล้าเมายาด้วยซ้ำ นี่แม่ก็กำลังหนักใจอยู่ ดังนั้น ที่ลูกมาถามแม่ว่า เจ้าหนุ่มที่มาหาลูก มาติดพันลูกแม่อยู่ทุกวันนี้น่ะ เป็นคนดีไหม แม่ตอบ ไม่ได้หรอก เพราะเมื่อก่อนพ่อของลูกก็ท่าทางเอางานเอาการ ความฉลาดเฉลียวดีกว่าผู้ชายคนที่มาชอบลูก เสียอีก แต่ว่าพ่อก็มาเป็นเสียอย่างนี้" เพราะฉะนั้นแม่สรุปเลย "แม่ไม่ห้ามนะ ถ้าลูกจะแต่งงานกับพ่อคนนั้น แต่ว่าถ้าแม่เป็นเราละก็ แม่ รักที่จะอยู่คนเดียว แม่ไม่แต่งงานหรอก เราไปคิดเอาเองก็แล้วกัน" นี่คือหัวอกของแม่ เป็นห่วงเป็นใยลูกสารพัดไปหมด แม้ในสิ่งที่ตัวเองไม่มั่นใจก็บอกว่าไม่มั่นใจ สารภาพ กับลูกตรง ๆ แล้วก็ชี้ทางเลือกให้ลูกอย่างดี ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าชี้ทางเลือก ชี้ทางออกให้แล้ว ลูกก็คงจะไม่ถูกใจนัก แต่ก็เอาเถอะ ลูกจะถูกใจหรือไม่ถูกใจ อย่างน้อยที่สุด ขอให้แม่ได้พูดตามความรู้สึกที่แท้จริงออกมา ก็พอใจ แล้ว ในกรณีอย่างนี้ เชื่อว่าพวกเราหลาย ๆ คนคงจะได้เจอกันมาบ้างแล้ว ใครไม่เจอ ถ้าต่อไปข้างหน้า ไปเจอลักษณะอย่างนี้เข้า ก็ขอให้หยุดคิด อย่าไปนึกว่าแม่ไม่รัก แม่กีดกันนะ หัวอกของแม่นี่มีความรู้สึกที่เรา ยากจะเข้าใจ ยกเว้นเราได้มาอยู่ในฐานะพ่อฐานะแม่บ้างแล้วเท่านั้น จึงจะเข้าใจได้ดี 18
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หน้าหนังสือทั้งหมด

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More