การดูแลผู้สูงอายุและคุณแม่ในวัยชรา พระคุณแม่ เล่ม 1  หน้า 25
หน้าที่ 25 / 30

สรุปเนื้อหา

บทความนี้เสนอแนวทางการดูแลผู้สูงอายุ โดยเฉพาะคุณแม่ที่มักมีอาการไม่ยอมรับอาหารที่มีราคาแพงหรือของใหม่ การรักษานิสัยในด้านการกินของท่าน เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ท่านมีสุขภาพดีขึ้น โดยระบุการทำบุญทำทาน ความสำคัญของการเลือกอาหาร และการสนับสนุนด้วยวิตามินและอาหารเสริมให้เหมาะสม เพื่อป้องกันโรคขาดอาหารและทำให้ท่านได้รับโภชนาการที่เพียงพอ ส่งผลดีต่อสุขภาพในวัยชรา

หัวข้อประเด็น

-การดูแลผู้สูงอายุ
-นิสัยการกินในวัยชรา
-การทำบุญทำทาน
-การป้องกันโรคขาดอาหาร
-การเลือกอาหารที่มีคุณค่าทางอาหาร

ข้อความต้นฉบับในหน้า

พระคุณแม่ โดย พระภาวนาวิริยคุณ (หลวงพ่อทตตชีโว ) สําหรับในเรื่องความหลงความลืมของท่านนี่ ค่อนข้างจะแก้ยาก เราได้แต่ทำใจให้ได้ว่า เราจะต้อง ทนรับฟังคำสั่งของท่าน หรือฟังคำปรารภของท่านเหมือนอะไร เหมือนเมื่อตอนเราเล็ก ๆ ท่านทนความดื้อ ของเราได้ เรื่องเก่านั่นแหละ ตีกันไปเถอะ เราไปทำผิดเรื่องนี้มา พอเห็นท่านเนื้อไม้เรียวละก็ กลัวแล้ว ๆ ไม่ทำอีกแล้ว พอท่านพ้นหลังไป โดนตีไปหยก ๆ นั่นละ เดี๋ยวก็ลืม แล้วก็ไปซน ๆ อย่างเดิมอีก แล้วท่าน ก็คว้าไม่เรียวมาตีใหม่ เราก็ กลัวแล้ว กลัวแล้ว อีก 3 เที่ยว 5 เที่ยว ก็ไอ้พรรค์นั้นแหละ นึกว่าใช้หนี้ก็แล้ว กัน จะออกลักษณะอย่างนั้น ไม่ยอมกินของแพงจนเป็นโรคขาดอาหาร อีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะฝาก บางท่านอาจจะเจอ คือ แม่ของพวกเรา ถ้าแต่เดิมท่านมาจากฐานะที่ ยากจน แล้วท่านไม่ค่อยได้ทำบุญทำทานมา พอท่านแก่แล้วท่านจะมีอาการอย่างนี้ หนึ่ง ข้าวของเสื้อผ้าใหม่ ๆ ท่านไม่ค่อยใช้หรอก เสียดายท่านใช้จนเก่าแล้วเก่าอีก กระทั่งแทบ เป็นผ้าขี้ริ้วก็ไม่อยากจะทิ้ง สอง กับข้าวกับปลา รวมทั้งหยูกยาอะไรก็ตามที่ ให้ดีให้วิเศษยังไง ถ้ารู้ว่าราคาแพงท่านไม่กินหรอก ท่านเสียดาย ท่านขี้เหนียวอาหารอร่อย ๆ กินถูกปาก แต่ถ้าบอกว่าราคาเท่านั้นเท่านี้ ราคาแพง ๆ ท่านวาง ช้อนเลย ไม่กินหรอก ในกรณีอย่างนี้ก็ต้องให้รู้จักอัธยาศัยท่านด้วย บางครั้งก็ต้องไม่บอกกัน แต่อย่าไปโกหกนะ จะเลี่ยงยัง ไงก็เลี่ยงไปเถอะ ไปโกหกท่านก็บาปปากอีก โกหกกระทั่งแม่ตัวเองก็กระไรอยู่ ไม่เอา คนอื่นเรายังไม่โกหก เลย ไปโกหกแม่ก็หมดท่าอีกเหมือนกัน ในกรณีอย่างนี้ดีที่สุดคือ พยายามให้ท่านทำบุญทำทาน แล้วนิสัย ตระบี่ เหนียวแน่น จะได้หมดไป ตักข้าวตักปลาเอาไว้ เช้าขึ้นมาให้ท่านตักบาตรให้ทาน เมื่อตักบาตรให้ ทานจนคุ้นเคยหนักเข้า ๆ ไม่นาน ข้าวปลาอาหารที่อร่อย จะแพงสักหน่อยท่านก็ยอมกิน ถ้าไม่อย่างนั้น เท่าไหร่ ๆ ก็ไม่กิน นี่ก็เป็นข้อบกพร่องของคุณแม่คุณพ่อ ที่เมื่ออยู่ในวัยหนุ่มวัยสาวไม่ได้ให้ทานเอาไว้ พอ บั้นปลายชีวิตก็จะมีอาการอย่างนี้ ๆ อีกอย่างก็เรื่องอาหารการกินของท่านผู้เฒ่าอีกนั่นแหละ ผู้เฒ่าบางท่านไม่ใช่คนขี้เหนียวนะ ทำบุญ ทำทานอะไรก็ทำ แต่ว่าท่านชอบกินอาหารประเภทที่ถูกปากท่าน มีคุณค่าทางอาหารหรือไม่ท่านไม่คำนึง ชอบ ผักดองชอบน้ำพริกของท่านไป แล้วพอบั้นปลายชีวิต ถ้าท่านมีนิสัยในการกินอย่างนี้ โดยลูก ๆ ไม่หาทาง แก้ไข โรคขาดอาหารจะถามหา จะเป็นโรคขาดอาหารได้ง่าย วิธีแก้ในกรณีอย่างนี้ ถ้าพูดกันท่านไม่ยอม ก็มีทางเดียวคือ เราต้องหมั่นไปกินข้าวกับท่าน แล้วดูแลคอยหยิบคอยตักให้ เลือกกับข้าวที่เข้าท่าเข้าทาง ทั้งถูกปากทั้งมีคุณค่าทางอาหารให้ท่าน ถ้าอย่างนี้พอรอดตัว แล้วพวกอาหารเสริมต่าง ๆ ไวตามินต่าง ๆ ดู จัดเตรียมไปให้ท่านให้ดี แต่นั่นแหละนะ อาตมาเคยเจอมาแล้ว ไปให้โยมแม่โยมพ่อนั่นแหละกินไวตามินบ้าง เกลือแร่บ้าง โน่น ๆ นี่ ๆ พอท่านกินไปได้สักระยะหนึ่งท่านว่ายังไงรู้ไหม? ท่านว่า ฮูย....วัน ๆ หนึ่งกินยามากกว่ากินข้าวอีก เป็นกำ ๆ เลย จะตายก็ปล่อยให้มันตายไปเถอะ อย่ามายุ่งกับโยมเลย เอ้าว่าไปอย่างนั้นอีก ก็ต้องปะเหลาะ ท่านไปนั่นแหละ ชวนคุยเรื่องโน้นเรื่องนี้ แล้วเดี๋ยวก็ส่งยาให้เม็ดสองเม็ด พอเผลอ ๆ นี่อีกหน่อย นั่นก็ เกลือแร่ละลายน้ำไป นี่ไวตามิน ก็ไม่รู้แหละ ชวนคุย พอท่านอารมณ์ดีก็ส่งยา อารมณ์ดีส่งยา ถ้ายังงี้ 25
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หน้าหนังสือทั้งหมด

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More