ข้อความต้นฉบับในหน้า
พระคุณแม่ โดย พระภาวนาวิริยคุณ (หลวงพ่อทตตชีโว )
สุขศึกษาทันทีเลย ท่านไม่ได้สอนอย่างครูในโรงเรียนหรอกนะ แต่วิธีของท่าน ทำให้ลูกได้วิชานี้ติดตัวไว้ใช้จน
วันตาย เขาเก็บข้อมูลสรุปความเอาไว้ว่า ถ้าแม่คนไหนเวลาลูกถ่ายอุจจาระปัสสาวะแล้ว แม่ไม่รีบเช็ดรีบ
ล้าง ปล่อยให้นอนจมจมอยู่อย่างนั้น พอลูกโตขึ้นจะมีนิสัยชอบหมก ๆ หมัก ๆ เสื้อผ้าสมบัติชิ้น ๆ ใช้
แล้วไม่พึ่งไม่ซัก ไม่ว่าชั้นนอกชั้นในขึ้นราเหม็นอับไปหมด น้ำท่าไม่ชอบอาบ เดินไปทางไหนก็เหม็นเปรี้ยว
เหม็นสาบจนเพื่อนเมิน
เพราะฉะนัน พวกเราที่ได้นิสัยดี ๆ รักความสะอาดมาแต่เล็กแต่น้อยนี่
ไม่ใช่เพิ่งมาได้ที่โรงเรียน
หรอกนะ คุณแม่ท่านเพาะนิสัยนี้มาให้แล้วตั้งแต่เรายังแบเบาะ นี่ถ้าคุณแม่ของเราท่านปล่อยปละละเลยมา
แต่ต้นจะด้วยเหตุใดก็ตาม ต่อให้ส่งเข้าโรงเรียนอนุบาลตั้งแต่เล็ก คุณครูเก่งแค่ไหนก็แก้นิสัยหมก ๆ หมัก ๆ
ได้ไม่ตลอดรอดฝั่ง พูดง่าย ๆ แม่เริ่มเป็นครูเราตั้งแต่วันแรกที่เราลืมตาขึ้นมาดูโลกแต่เราไม่ค่อยได้คิดกัน ท่าน
ให้ทั้งการเลี้ยงดูทะนุถนอม และให้การศึกษาแก่เราเรื่อยมา ทั้งโดยตัวท่านเองและส่งไปตามสถานศึกษาที่คัด
แล้วว่าดีที่สุด ตามไปฝากฝังเรากับครูบาอาจารย์ จบการศึกษาแล้วก็ยังให้ทุนรอนตั้งตัวหางานให้ทำ ติดตาม
ป้องกันชีวิตเรา จนกว่าท่านจะละโลกไป หลายท่านยังมอบมรดกทรัพย์สินเงินทอง ให้เป็นเครื่องเลี้ยงชีวิตเรา
แทนท่านอีก สิ่งเหล่านี้ไม่มีใครสามารถที่จะติดตามทำให้เราได้ นอกจากแม่ของเรา คนทั้งโลกแม้แต่ชนชาติ
ที่ไม่ได้ศิวิไลซ์อะไรนัก เขายังให้ความเคารพแม่ เพราะความที่พระคุณของแม่มากมายนัก ถ้าไม่ใจบอดจริง ๆ
แล้วเป็นต้องเห็นกัน
นี่เป็นความดีระดับที่หนึ่งหรือระดับอนุบาลของคนดี คือ รู้พระคุณของแม่ รู้ขนาดนี้ยังจะคิดตอบ
แทนหรือยัง ยังไม่แน่ใจ เพราะคนในโลกนี้มีหลายประเภทอย่างที่ว่าไว้แล้ว
13