พระคุณแม่ โดย พระภาวนาวิริยคุณ พระคุณแม่ เล่ม 1  หน้า 15
หน้าที่ 15 / 30

สรุปเนื้อหา

พระคุณแม่ การแสดงออกถึงความรักและความห่วงใยของพ่อแม่ซึ่งมีผลกระทบต่อใจลูกๆ ในช่วงเวลาเดียวกันที่ลูกๆ มักจะลืมคิดถึงความรู้สึกของคนที่รักเรามากที่สุด โดยเฉพาะในช่วงวันพิเศษต่างๆ การไม่มาเยี่ยมอาจทำให้ท่านรู้สึกเหงาและเสียใจ นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวการศึกษาต่อที่ต่างประเทศ ซึ่งเล่าถึงความรู้สึกของลูกที่ไม่ตอบจดหมายแม่และความกังวลของแม่ที่ต้องการข่าวจากลูก ช่องทางการสื่อสารและการห่วงใยจากคนในครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลยเพื่อให้สามารถบรรเทาความเหงาและสร้างความสุขให้กับผู้สูงอายุอย่างคุณพ่อคุณแม่

หัวข้อประเด็น

-ความรักของแม่
-ความห่วงใยของพ่อ
-การมาเยี่ยมของลูก
-ผลกระทบที่เกิดขึ้น
-การศึกษาต่อต่างประเทศ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

พระคุณแม่ โดย พระภาวนาวิริยคุณ (หลวงพ่อทตตชีโว ) ผ่าน นาน ๆ จะมีสักคันหนึ่ง พอได้ยินเสียงรถยนต์มาแต่ไกล ท่านจะออกไปยืนหน้าบ้านคอยว่า เมื่อไหร่ลูก จะมา เจ้ารถคันนี้ลูกจะมาไหมนี่ ท่านเดินเข้า ๆ ออก ๆ ทั้งวัน แต่เมื่อลูกไม่มาหรือบางปีมาไม่ครบหน้า ท่าน ก็ไม่พูดอะไรมาก แต่ว่าท่านนั่งซึม ๆ โยมพ่อก็นั่งซึม โยมแม่ก็นั่งซึม นี่หัวอกแม่หัวอกพ่อเป็นอย่างนี้ เราอาจจะกำลังเที่ยวสนุกอยู่ อาจจะทำอะไรเพลิน ๆ อยู่ก็ตามที แต่ ว่า ท่านไม่ได้นึกเหมือนเรานึกหรอก ท่านนึกถึงเราแต่ในลักษณะของความห่วงใยเสียเป็นส่วนมาก กังวลว่าจะ เจ็บไข้ได้ป่วยสารพัด เพราะฉะนั้น พอถึงเวลาแล้ว แค่เราไม่ไปหรือไปเยี่ยมท่านผิดเวลาก็มีผลถึงขนาดนี้ พวกเรานะ ถึงวัน ถึงเดือน ถึงปี ซึ่งเป็นที่รู้กันในครอบครัวละก็อย่าขาด ไปเยี่ยมคุณพ่อคุณแม่ ของเราให้ได้ ถ้าไม่ไปจะเป็นการทรมานคนแก่มากเลย วันรวมลูก ๆ รวมคนในครอบครัว ส่วนมากที่เป็นที่รู้กันก็ คือ วันขึ้นปีใหม่ บางครอบครัวที่มีเชื้อ สายจีนก็อาจเป็นวันตรุษจีน ของคนไทยแต่เดิมก็กำหนดเอาวันสงกรานต์ หรือในครอบครัวที่เคร่งศาสนาก็อาจ ถือเอาวันเข้าพรรษาหรือวันอะไรก็ตามแต่ ส่วนที่ทันสมัยหน่อยก็อาจเป็นวันเกิดของคุณพ่อคุณแม่ วันเหล่านี้ ถ้าเราขาดไปสักคนหนึ่ง จะมีผลต่อท่านผู้เฒ่าอย่างมาก แต่ถ้าเราไปพร้อมหน้าพร้อมตากัน ท่านจะดีใจ ดีใจเหมือนกับไปได้ยาวิเศษอะไรมาสักขนานหนึ่ง เอามาต่ออายุท่านอย่างนั้นแหละ นี่คือลักษณะ ของความคิดถึงลูกของแม่ของเรา หรือของคุณพ่อของเรา ถ้าลูกคนไหนมองข้ามเรื่องนี้ไป ก็เหมือนทอนอายุ ท่านผู้เฒ่าทีเดียว อยากได้ข่าวจากลูกที่อยู่ไกล เมื่อตอนที่จบการศึกษาจากเมืองไทย อาตมามีโอกาสไปศึกษาต่อต่างประเทศ ไปอยู่ 2 ปีไม่เคยส่ง จดหมายมาถึงทางบ้านเลย เพราะว่าตอนที่ไปเรียนต่อนั้นลำบากอยู่พอสมควร สภาพหลาย ๆ อย่างบีบบังคับ เอาพอแรง แล้วบวกกับเป็นคนไม่ชอบเขียนจดหมาย ซึ่งถ้าจะว่าไปแล้วเป็นนิสัยที่ไม่ดีเลย ลูก ๆ ทั้งหลาย อย่าเอาอย่างนะ ไปอยู่ต่างประเทศได้อาทิตย์หนึ่ง โยมพ่อก็จดหมายไปด้วยความเป็นห่วงลูกชาย แล้วก็บอกว่าทุกคน ทางบ้าน โดยเฉพาะโยมแม่คิดถึงมาก อาตมาก็ไม่ตอบ ฉบับที่ 2 ก็เฉยไม่ตอบ อีก 2-3 อาทิตย์ต่อมา ฉบับที่ 3 ก็มา แล้วก็ไม่ตอบอีก เพราะว่าถ้าตอบก็ต้องพูดกันตรง ๆ พูดกันตรง ๆ ก็คือ สภาพที่ไปเรียนไม่สบายเท่าไหร่นัก ตั้งแต่เข้าห้องเรียน ฟังภาษาไม่รู้เรื่องเลย เพราะภาษาอังกฤษที่เรียนไปนั้น เป็นภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน แต่ว่าไปฟังภาษาอังกฤษแบบออสเตรเลียเข้าก็ เลยฟังไม่รู้เรื่อง เหมือนอย่างกับฝรั่งที่มาเมืองไทย เขาเรียนภาษาไทยภาคกลางมา แต่พอมาถึงเมืองไทยแล้ว แทนที่จะอยู่ภาคกลาง กลับไปอยู่ภาคใต้หรือภาคอีสานเข้า ก็คงจะมีอาการแบบเดียวกันนั่นแหละ เข้าห้อง เรียน อย่าว่าแต่จดเลคเชอร์เลย ฟังก็ยังไม่ค่อยจะรู้เรื่อง ก็เลยไม่อยากเล่าให้ทางบ้านฟัง เลยไม่เขียน จดหมายตอบ พอ 3 ฉบับไม่ตอบ ทั้งโยมพ่อโยมแม่คงน้อยใจ โยมพ่อเลยเขียนจดหมายมาฉบับที่ 4 ท่านเขียนสั้น ๆ บรรทัดเดียว "ลูกรัก ถ้ายังไม่ตายตอบจดหมายพ่อด้วย" แล้วปรากฏว่าไม่ตอบอีก ตั้งแต่นั้นมาจนกระทั่ง 15
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หน้าหนังสือทั้งหมด

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More