ข้อความต้นฉบับในหน้า
ปกิณกธรรม
เรื่อง : พระมหาเสถียร สุวณฺณฐิโต ป.ธ. ๙ / พระมหาวิริยะ ธมฺมสารี ป.ธ. ๙
การตัดสินใจที่ยิ่งใหญ่
อยู่ไห
“โลกพร่องอยู่เป็นนิจไม่รู้จักอิ่ม มีความอยากไม่มีที่สิ้นสุด สัตว์โลกเมื่อถูกความแก่ทำลาย
ก็ต้องตกตายไปเหมือนผลไม้ร่วงหลุดจากขั้ว อาตมภาพรู้เหตุนี้แล้วจึงออกบวช เพราะชีวิตสมณะ
เป็นชีวิตที่ประเสริฐอย่างแท้จริง” (เถรคาถา)
การตัดสินใจออกบวชนั้น ไม่ใช่เป็นเพียง
ความคิดดีชั่ววูบ แต่ต้องเกิดจากการที่บุคคลนั้นได้
สั่งสมบุญและอธิษฐานจิตมาดีข้ามชาติ ต้องมีปัญญา
ความคิดที่เป็นมหากุศลนี้จึงได้ผุดขึ้น ในท่ามกลาง
ชีวิตที่เจอแต่วิกฤต มีหลายคนที่อะไร
ๆ ก็ไม่ค่อย
จะพร้อม แต่หัวใจกลับพร้อมที่จะออกบวช และ
ถึงแม้บางคนจะมีชีวิตทางโลกที่พรั่งพร้อมทุกอย่าง
หากตัดสินใจบวช ก็นับเป็นการตัดสินใจที่ยิ่งใหญ่
กว่าการปรารถนาเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ถือว่าดำเนิน
ตามรอยบาทพระศาสดาเมื่อครั้งที่พระองค์ยังเป็น
เจ้าชายสิทธัตถะ พอตัดสินพระทัยออกผนวชเท่านั้น
ก็มีพญามารเอาสมบัติพระเจ้าจักรพรรดิมาล่อ เพื่อ
ให้เลิกล้มการออกบวช แต่พระองค์ปฏิเสธ เพราะ
สมบัติเหล่านี้ไม่อาจทำให้หลุดพ้นจากการเป็นบ่าว
เป็นทาสของพญามาร
ดังนั้น ผู้ที่ตัดสินใจออกบวชจึงเป็นบุคคล
มหัศจรรย์ของโลก เพราะเป็นบุคคลที่จะไม่ยอมให้
กิเลสมาบังคับให้ทำบาปอกุศล แต่จะพยายามยกตน
ขึ้นสู่หนทางสวรรค์ นิพพาน ท่ามกลางชาวโลกที่
ปล่อยใจตามกระแสกิเลส แต่ท่านเหล่านี้จะสวนกิเลส
เหมือนพายเรือทวนกระแสน้ำ ด้วยการมาฝึกตน
ทนหิว บำเพ็ญตบะ เอาชนะกิเลสที่ซ่อนเร้นอยู่ในใจ
มุ่งธำรงตนเป็นเนื้อนาบุญและสืบอายุพระพุทธศาสนา
ให้ยืนยาว
ในสมัยพุทธกาล กุลบุตรผู้มีบุญชื่อรัฐปาละ
ได้โอกาสไปฟังธรรมกับเพื่อนแล้วเกิดศรัทธาอยาก
บวชจึงทูลขอบวชขณะนั้นเลย แต่พระพุทธองค์ทรง
ปฏิเสธเพราะยังไม่ได้รับอนุญาตจากบิดามารดา เขา
จึงกลับบ้านไปขออนุญาตบวช ก็ถูกพ่อแม่ปฏิเสธอีก
“ลูกรัก....เจ้ายังหนุ่มแน่น ควรหาความสุขใส่ตัวดีกว่า
แม้ครองเรือนอยู่จะทำบุญไปด้วยก็ยังได้ พ่อแม่ให้
ลูกบวชไม่ได้หรอก” แต่เขามิยอมล้มเลิกความตั้งใจ
จึงเอาแต่นอนอยู่บนเตียง อดข้าว อดน้ำ เพื่อน ๆ
ได้มาเกลี้ยกล่อมพ่อของเขาว่า "ถ้าเขาไม่ได้บวช เขา
อาจตายฟรี แต่ถ้าท่านให้เขาบวช ก็จะมีโอกาสได้
เห็นเขาบ้าง การบวชนี้มันลำบาก การอยู่ การกิน
การนอนไม่สะดวก รัฐปาละเป็นสุขุมาลชาติ ถ้าเขา
ทนไม่ได้เดี๋ยวก็สึกออกมาเอง” ท่านทั้งสองอยากให้
ลูกมีชีวิตอยู่ต่อไปจึงยอมอนุญาต รัฐปาละพอทราบ
ก็ดีใจมาก ลุกขึ้นกราบเท้าขอขมาและลาบวชทันที
จากนั้นก็ปลีกวิเวกตั้งใจบำเพ็ญสมณธรรม ในไม่ช้า
ก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์
ต่อมาพระรัฐปาละได้เดินทางกลับมาที่บ้าน
ขณะนั้นบิดาเห็นท่านเดินมาแต่ไกล แต่ก็จำหน้าไม่
ได้ เพราะไม่อยากมองหน้าพระเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
เนื่องจากผูกใจเจ็บในเหล่าสมณะ ที่ทำให้ท่านต้อง
เสียลูกชายสุดที่รักไป จึงพูดขับไล่ว่า “สมณะพวกนี้
บวชให้ลูกของเรา เราก็ไม่เคยได้เห็นเขาเลยแม้