ประสบการณ์ของแม่ในการเลี้ยงลูก วารสารอยู่ในบุญ ประจำเดือน กรกฎาคม พ.ศ.2553 หน้า 59
หน้าที่ 59 / 108

สรุปเนื้อหา

บทความนี้เล่าถึงความรู้สึกและประสบการณ์ของแม่ตั้งแต่อยู่ในครรภ์จนถึงการเลี้ยงลูกในวัยรุ่น แสดงถึงความรักและความกังวลใจที่มีต่อลูก ความผูกพันที่เกิดขึ้นตลอดเวลา และการตั้งคำถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในครอบครัว โดยเฉพาะเมื่อแม่ต้องห่างจากลูกเพื่อทำงาน เช่น การส่งเงินให้แม่ยายเลี้ยงดูและความยากลำบากในการสื่อสารกับลูกในวัยรุ่นที่มีพฤติกรรมเกเร โดยมีการพบกับวัดพระธรรมกายและการเข้าใจในธรรมะเป็นตัวช่วยในการปรับตัว

หัวข้อประเด็น

-การตั้งครรภ์
-การคลอดลูก
-ความรักของแม่
-การเลี้ยงดูวัยรุ่น
-การเข้าวัดพระธรรมกาย
-ความกังวลของแม่

ข้อความต้นฉบับในหน้า

และครั้งแรกที่ลูกในท้องดิ้นถีบเราจนท้องโย้ไปโย้มา ได้ตอกย้ำถึงความรู้สึกว่า มีอีกชีวิตหนึ่งที่จะมาอยู่ กับเราจริง ๆ จนกระทั่งครบกำหนดคลอด ต้องเจ็บ ท้องเป็นชั่วโมง ทรมานมากจนทำให้เสี้ยววินาทีนั้น คิดถึงแม่ของเราเอง คิดถึงแม่จนน้ำตาไหล และเพิ่ง เข้าใจอย่างซาบซึ้งว่า แม่ของเราเจ็บแค่ไหน เพิ่ง เข้าใจถึงความรักที่แม่มีต่อเราตอนนั้นเองว่ามาก ขนาดไหน เพราะชีวิตน้อย ๆ ที่กำลังจะคลอดอยู่นี้ ทำให้เรารักเขาขึ้นมาอย่างท่วมท้นทันที อย่างที่ไม่ เคยเป็นกับใครมาก่อน ทั้ง ๆ ที่ก็ไม่รู้เลยว่า โตขึ้น เขาจะเป็นคนดีหรือไม่ดี เขาจะดีได้สมกับความรักที่ เราให้เขาหมดใจอย่างนี้ไหม จะ ครั้งแรกที่พยาบาลอุ้มลูกมาให้ เราได้ฝึกเป็น คุณแม่มือใหม่ในการให้นมลูก ตอนนั้นทำอะไรไม่ ถูกเลย เห็นลูกตัวแดง ๆ และอ่อนนุ่มนิ่มมาก ประคองอุ้มลูกก็ยังไม่ชินมือ กลัวลูกเจ็บ กลัวลูก ตกลงมา ช่วงที่เราให้นมลูก ๓ เดือนนี้ เป็นช่วง เวลาแห่งภาระแต่มีความสุขที่สุด เป็นช่วงแห่งความ ผูกพันกับชีวิตในอ้อมแขนอย่างแนบแน่น จนเผลอ คิดไปไกลว่า ชั่วชีวิตนี้คงไม่มีความรักไหนเป็นรักแท้ ที่ทำให้เราผูกพันอย่างสามารถเอาชีวิตเข้าแลกได้ เหมือนชีวิตน้อย ๆ ที่อยู่ในอ้อมอกนี้อีกแล้ว ๆ วินาทีแห่งความพลัดพราก ความรักที่เรามีต่อลูกได้เพิ่มขึ้นทุกวัน ถึง ขนาดคิดไปว่า แม้ความตายจะมาหยุดชีวิตเรา ณ ตอนนี้ ก็ไม่อาจหยุดความรักที่เรามีต่อลูกได้ แต่ เพราะความจน และเราก็ไม่อยากอดตาย อีกทั้งเรา มีภาระ คือ ลูก ทำให้ต้องจำใจกลับไปรับจ้าง ทำงานโรงงานที่กรุงเทพ เพื่อแลกกับค่าแรงงานขั้น ต่ำ เราจึงต้องยกลูกให้ยายเขาเลี้ยงไปก่อน ตอน พรากจากลูกนั้นทำใจแทบไม่ได้ นอนร้องไห้น้ำตา ไหลอยู่เป็นเดือน ๆ เพราะคิดถึงลูกมาก พอเงิน เดือนออก ก็รีบส่งธนาณัติไปให้ยายของเขาเพื่อเป็น ค่านมลูก อีกทั้งยังเขียนจดหมายไปถามเรื่องลูกไม่ เคยขาด นับจากนั้น..... เราต้องเร่ร่อนทำงานโดยไม่ได้ อยู่กับลูก จึงมีความรู้สึกว่า ลูกจะเข้าใจแม่อย่างเรา ไหม ลูกจะคิดกับเราอย่างไร ลูกรักเราเหมือนกับที่ เรารักเขาไหม ตลอดเวลาที่ผ่านมานานถึง ๒๑ ปี สิ่งหนึ่งที่อยู่ในใจเรานับตั้งแต่คลอดเขา คือ เราไม่ เคยได้ยินคำว่า “รักแม่” ออกจากปากเขาเลย... แต่ สำหรับเราแล้ว เราก็ไม่เคยรักลูกลดลงเลย แถมยัง ทรมานใจที่ครอบครัวเราไม่ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา อย่างมีความสุขเหมือนกับครอบครัวอื่น ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เราเป็นห่วงลูกมากกว่าแม่ปกติทั่วไป เพราะ กลัวลูกจะกลายเป็นเด็กมีปัญหา พอเขาโตเป็นวัยรุ่น เป็นช่วงที่ลูกเกเรที่สุด จนเรารู้สึกทุกข์มาก วัน ๆ ต้องมานั่งกังวลว่า ลูก จะไปตั้งวงเหล้าที่ไหน จะไปก่อเรื่องกับใคร จะไป นอนค้างบ้านเพื่อนคนไหน ห่วงจนอดโทร.หาลูกไม่ ได้ เพราะเราเห็นมานักต่อนักแล้วว่า คนกินเหล้า สุดท้ายก็ขาดสติ ทำเรื่องที่ไม่คาดคิด บางครั้งก็ต้อง มาเสียชีวิต และถ้าลูกเราต้องเป็นอย่างนั้นไปจริง ๆ แม่อย่างเราจะทำอย่างไร และพอเราโทรไปหาลูก เราบอกลูกว่า "อย่ากินเหล้านะลูก” เขาก็ตอบเราว่า “ครับแม่” แต่ไอ้ครับ นี่แหละ กำลังเมาแป้คา ขวดอยู่ และพอเราบอกลูกว่าอย่าดื้ออย่าเกเร เขาก็ ว่าแม่ไม่เข้าใจวัยรุ่น ๆ ช่วงนั้น...ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนเป็นแม่อย่าง เราจะแก้ปัญหานี้อย่างไร จนกระทั่งเราได้มารู้จัก วัดพระธรรมกาย ทำให้เราซาบซึ้งในธรรมะ เห็น ข้อวัตรปฏิบัติของหลวงพ่อ เห็นพระที่มีศีลาจารวัตร งดงาม ทำงานให้พระพุทธศาสนาอย่างทุ่มชีวิต อย่างนี้ เราจึงเกิดความคิดขึ้นมาว่า อยากให้ลูกชายเรา
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More