ข้อความต้นฉบับในหน้า
ทันโลก ทันธรรม
แนะนำสั่งสอนตลอด นุ่งห่มจีวรทำอย่างไร ทำวิกัปผ้า
อย่างไร พระวินัย ๒๒๗ ข้อ มีอะไรบ้าง การรับน้อง
ของพระมีถึง ๕ ปี คือ ช่วงเป็นพระนวกะ ๕ พรรษา
แรก เป็นวิธีการที่ดี ผลก็คือ ถ้าทำตามแล้วเราจะ
เป็นพระภิกษุที่มีคุณภาพในพระพุทธศาสนา
เหมือนกันการรับน้องใหม่ ถ้าทำถูกวิธี คือ
รุ่นพี่คอยดูแลรุ่นน้องอย่างดี ก็จะทำให้น้องใหม่ที่
เติบโตขึ้นมาในรั้วมหาวิทยาลัยกลายเป็นบัณฑิตที่
มีคุณภาพของสังคมต่อไป ปัญหาคือวิธีการ ขอให้
ปรับแก้วิธีการ แล้วทุกอย่างก็จะเป็นไปด้วยดี
ก็ขอให้นิสิตนักศึกษาใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัย
ทุกคนมีวินัยในการศึกษาเล่าเรียน ควบคุมเรื่องเวลา
ของตัวเองให้ดีเป็นประการแรก อีกประการหนึ่ง คือ
เรื่องการคบเพื่อน ขอให้คบเพื่อนที่ดี การรับน้องใหม่
ไม่ใช่ของเสียหาย แต่วิธีการรับน้องต้องถูกต้อง แล้ว
ถ้าหากเราไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีวิธีการรับน้องที่
ยังไม่ค่อยถูกต้อง หากมีรุ่นพี่จะเอาเหล้ามาให้ดื่ม
อาตมาขอแนะนำวิธีการที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อ
ธัมมชโยเคยใช้มาแล้วสมัยเป็นนิสิตที่มหาวิทยาลัย
เกษตรศาสตร์ เมื่อรุ่นพี่เอาเหล้ามาให้ดื่ม ท่านตอบ
สั้น ๆ ว่า “ผมรักษาศีลครับ” พี่ที่กำลังเมาแทบสร้าง
เมาเลย
ก่อนที่หลวงพ่อทัตตชีโวจะมาพบหลวงพ่อ
ธัมมชโยท่านก็ดื่มเหล้าหนักเหมือนกัน เจอกันครั้งแรก
ท่านเอาแก้วเหล้ายื่นให้เลย แต่หลวงพ่อธัมมชโยท่าน
บอกว่า “ไม่ครับพี่ ผมรักษาศีล” หลวงพ่อทัตตชีโว
ท่านบอกว่า ท่านแทบสร่างเมาเหมือนกัน ไม่กล้า
คะยั้นคะยอต่อ เราลองเอาไปใช้ดูบ้างก็ได้ ถ้าเรา
รักษาศีลจนกระทั่งเป็นปกติ แค่กล่าวสั้น
ๆ จะมี
อานุภาพทีเดียว
นอกจากนี้ ยังมีนิสิตคณะสัตวแพทย์ฯ | จุฬาฯ
๒ ท่าน เป็นรุ่นน้องอาตมา ไปอบรมธรรมทายาท
ภาคฤดูร้อนที่วัดพระธรรมกาย หลังอบรมเสร็จก็
ตั้งใจรักษาศีล ๕ ตลอด แต่เรียนอยู่คณะสัตวแพทย์ฯ
"
ขอให้เราตั้งใจ
รักษาศีลจริง ๆ
จะไปอยู่ที่ใดก็แล้วแต่
สิ่งแวดล้อม
จะไม่เป็นอุปสรรค
ต่อการตั้งใจ
ทําความดีของเราเลย
ต้องมีการทดลอง โดยเฉพาะในปีสูง ๆ ปี ๕ ปี 5
จะต้องมีการฆ่าสัตว์ทดลอง ทั้งคู่ก็เลยไปหาอาจารย์
บอกว่าจะขอจบ ๔ ปี ขอแค่วิทยาศาสตรบัณฑิต ๔
ปีก็พอ สัตวแพทยศาสตรบัณฑิตไม่เอาแล้ว
พอนิสิต ๒ ท่านนี้ไปหาอาจารย์เพื่อขอจบ
เพราะว่ากลัวผิดศีล อาจารย์จึงเอาเรื่องเข้าที่ประชุม
ผู้บริหารว่านิสิตจะขอจบ ๔ ปี ขออนุมัติจากคณะ
กรรมการบริหารมหาวิทยาลัยด้วย ที่ประชุมถาม
เหตุผล คณะบดีคณะสัตวแพทย์ฯ ก็ตอบว่า “นิสิต
ๆ
เขารักษาศีล” ที่ประชุมก็อนุมัติเป็นเอกฉันท์
ทั้งสองท่านนี้ก็เลยรับปริญญาวิทยาศาสตร
บัณฑิต แล้วมาเป็นอุบาสกที่วัดอยู่ประมาณ ๑๐ ปี
แล้วบวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนามาจนกระทั่ง
๑๐ พรรษากว่า ๆ แล้ว คือ พระสุรัตน์ อคฺครตโน
และพระสุทธิชัย สุทธิชโย ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของวัด
ของพระศาสนาทั้งคู่ในปัจจุบัน นี้คือ อานุภาพของ
ศีล อย่าว่าแต่เพื่อน ๆ หรือรุ่นพี่เลย แม้ครูบาอาจารย์
ก็ยังยอมรับ ขอให้เราตั้งใจรักษาศีลจริง ๆ จะไป
อยู่ที่ใดก็แล้วแต่ สิ่งแวดล้อมจะไม่เป็นอุปสรรคต่อ
การตั้งใจทำความดีของเราเลย แล้วเราจะใช้ชีวิตใน
รั้วมหาวิทยาลัยได้อย่างมีความสุข สำเร็จการศึกษา
เป็นบัณฑิตที่สมบูรณ์