ข้อความต้นฉบับในหน้า
นี่คือข้อความที่สแกนได้จากภาพ:
ฉันนั้น ให้เริ่มใช้กิจกำของพระสัมาสัมพุทธเจ้า คือ จะปรับปรุงสังคมได้ก็ตาม ต้องเริ่มที่การดีอาวุธทางปัญญา ให้ความรู้ให้ทุกคนเข้าใจความจริงว่า อดเป็นสิ่งไม่ดี อย่าเชื่อเขา แต่ให้ถือหลักความถูกต้อง แล้วต่อเข้าไปสู่ความยุติธรรมให้ได้ พอคิดอย่างนี้แล้วหากจุดร่วมกัน เพราะว่าความถูกต้องยุติธรรมจริง ๆ แล้ว มีจุดเดียว ถ้าทุกคนพุงมาตรนี้แล้วจะค่อย ๆ มารวมกันได้ แต่ถ้าเขือถามความชอบใจของแต่ละคน สุดท้ายความแตกต่างทางความคิดจะแยกย่อยไปสู่ความแตกแยกมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งไม่เป็นผลดี แล้วคนในสังคมนั้นก็จะไม่ค่อยมีความสุข
ดังนั้น ดีที่สุดคือให้ความยุติธรรมสำหรับทุกคน และเมื่อทุกคนรักษาความสงบในใจเองคืนนี้สมออยู่กับบุญ ใจเราก็จะสบาย ถึงข้นนอกจากวายแต่เราไม่วายนา เสร็จแล้วค่อย ๆ ให้ความรู้ความเข้าใจถูกต้องแสวงสังคมมากขึ้น สุดท้ายเมื่อคนในสังคมเข้าใจถูกต้องตรงกัน เห็นความสำคัญของความยุติธรรม แล้วพุงไปสี่ทางเดียวกัน จะค่อย ๆ หลอมรวมสิ่งที่แตกต่างและแตกแยกให้กลมกลืนเข้าไป สุดท้ายสังคมก็จะสงบสุข ความยุติธรรมก็จะบังเกิดขึ้น ทุกคนก็อยู่ร่วมกันด้วยความเมียเนินสุข
**สังคมแบบที่กล่าวมานั้นเหมือนเป็นสังคมในอุดมคติ จะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่? ในยุคพุทธกาลมีสังคมแบบนี้เกิดขึ้นแล้วจริง ๆ หรือไม่?**
พิลุฉันแล้วในครั้งพุทธกาล อิเทนในครั้งพุทธกาลมันน้อยกว่าปัจจุบัน ถ้าโครงชั้นชั้นนั้นเกิดมาแยกกันเลยแต่งงานกันไม่ได้ บางครั้งมองเห็นกันยังไม่ไดเลย เมื่อไรก้เข้ามาระนะมาแต่งงานกัน ลูกเกิดมาอ่าวต้องไปเป็นจันตาล หูดจาก เด พวกไปเลย ถ้าเป็นจันตาลแค่เห็นต้องเอาล้างตา ถือเป็นเสน่ห์จูบจะมั่งเกียวกันขนาดนั้น แต่พระพุทธองค์พลิกฝ่ามือเดียว จะเป็นจันตาล ศุทธ แพย์ กษัตรย์ พราหมณ์ ถ้ามาบวชแล้วเหมือนกันหมดอยู่ร่วมกันด้วยความสงบและสามัคคี ทรงทำได้จริง ด้วยการให้ความเข้าใจถูกต้องแก้ทุกคนโดยเริ่มต้นจากหนึ่ง สอง สาม เป็นสิบ เป็นพัน เป็นล้าน แล้วคุ้มไปทั่วสังคม
**สังคมในอุดมคตินี้พวกคอมวิตัสเขามีกันใช่ไหม?**
ของคอมวิตัสเขาใช้การบังคับ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงใช้ความรู้ ใช้ปัญญานำหน้า คอมวิตัสใช้กัลยาณบีเป็นว่าเสมอกันโดยทุกคนเท่ากันหมด แล้วมีอภิสิทธิ์ชนคือชนชั้นผู้นำของพรรค สังคมเลยไม่เจริญ แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงใช้ความสมัครใจโดยเอาปัญญานำหน้า ผลคือทุกคนอยู่รวมกันด้วยความสุข เจริญทั้งจิตใจ เจริญทั้งความรู้...