ข้อความต้นฉบับในหน้า
112
ธรรมวาระ วารสารวิชาการทางพระพุทธศาสนา
ปีที่ 7 ฉบับที่ 2 (ฉบับรวบรวม 13) ปี 2564
พบว่าประชาชนนี้นับถือศาสนาพุทธแบบเถรวาทโดยส่วนใหญ๋
ยังคงมีความเชื่อว่ามีรูปแบบของสิ่งมีชีวิตที่อยู่ระหว่างภพภูมิก่อนตาย
กับภพภูมิที่จะไปเกิดใหมู่ อยู่ แม้วาอาจจะไม่สามารถบอกได้ชัดเจนว่า
สภาวะนี้หมายถึงอันตราของหรือไม่ก็ตาม นั้นหมายความว่า ในพื้นที่
ที่ได้รับอิทธิพลจากพระพุทธศาสนาแบบเถรวาท ก็ยังคงมีความเชื่อถึง
สภาวะชั่วขะหลังความตาย ก่อนที่จะไปเกิดในภพภูมิใหม่ อยู่ ถึงแม้
แนวคิดนี้จะมีความขัดแย้งกับแนวคิดในคัมภีร์อิทธิของเถรวาท
อีกทั้งยังถูกปฏิเสธอย่างชัดเจนก็ตาม
คํานุกรมเป็นแนวคิดที่ไม่ได้รับความสนใจในวงการพุทธศาสตร์
ในประเทศที่่ควร ทั้ง ๆ ที่เป็นประเด็นสำคัญในข้อได้แง่ระหว่าง
พระพุทธศาสนาหลากหลายแนว และยังเป็นแนวความเชื่อที่พุทธศาสนิก
ในกลุ่มเถรวาทบางส่วนให้การยอมรับอยู่ ดังนั้น บทความนี้จึงมี
วัตถุประสงค์ที่จะนำเสนอข้อมูลเชิงเปรียบเทียบเกี่ยวกับข้อเท็จจริงเรื่อง
12 Rita Langer, Buddhist Rituals of Death and Rebirth: Contemporary Sri Lankan Practice and its Origin (London: Routledge, 2007), 82-84.
13 ในการวิจารณ์การของไทย มีเพียงงานวิจัยของอาจารย์อัชยะ งามจิตร เจริญ ที่พยายามจะอธิบายว่ามิติเห็นอันตราของในไม่่ได้ขัดแย้งกันแนวคิดเรื่องความลับเนื่องของจิตในพระพุทธศาสนาเถรวาท (วะระ งานจิตเจริญ, "แนวความคิดเรื่องอันตรายในพระพุทธศาสนาเถรวาท," วารสารศิลปศาสตร์ ปีที่ 8, ฉบับที่ 1, (มกราคม-มิถุนายน 2551): 19-56.) นอกจากนี้ยังมีงานเขียนของ
ประปีเด่น เวาศกา ที่ทำการศึกษาเรื่องอันตรภาพ แต่เน้นไปที่แนวคิดในพระพุทธศาสนาหมายและวัฏ ฤยาไม่ได้กล่าวถึงข้อวิจารณ์ระหว่างพระพุทธศาสนายุคนี้กาย (ประปีเด่น เวาศกา, "อันตรภาพของนิกายมหายานและวัฏ ฤยา: การศึกษาเชิงวิเคราะห์แนวคิดเรื่องอญญาณในพระพุทธ
ศกามหยานและวัชรยาน," วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยวิทยาเชิงพุทธ ปีที่ 5, ฉบับที่ 3, (มีนาคม 2563): 292-305.)