คำสอนเกี่ยวกับอันตรภาพในพระพุทธศาสนา แนวคิดเรื่องอันตราภพหลังความตาย ในคัมภีร์อภิธรรมของแต่ละนิกาย (1) หน้า 22
หน้าที่ 22 / 51

สรุปเนื้อหา

บทความนี้มีการกล่าวถึงคำสอนที่สำคัญในพระพุทธศาสนาเกี่ยวกับ 'อันตราพ' หรือช่วงเวลาระหว่างมรณภาพจนถึงการเกิดใหม่ โดยสามารถแบ่งออกเป็น 7 ประเภท หรือ 5 ภพ และการอธิบายความหมายของคำว่า 'antara' และ 'bhava' ซึ่งสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับสภาวะการดำรงอยู่และการเกิดใหม่. สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชมที่ dmc.tv.

หัวข้อประเด็น

- คำสอนพระพุทธศาสนา
- อันตรภาพและการเกิดใหม่
- การแบ่งประเภทของ bhava
- ความหมายของantara และ bhava

ข้อความต้นฉบับในหน้า

124 ธรรมาภาว วารสารวิชาการทางพระพุทธศาสนา ปีที่ 7 ฉบับที่ 2 (ฉบับรวมวาระที่ 13) ปี 2564 (3) อภิธรรมยายนุสาระ41 又聖教説有中有故, 諸契經言: “有有七種. 即五趣有,業有,中有.”41 อีกประกาศหนึ่ง คำสอนอัน เป็นประเสริฐกล่าวว่ามีอันตราพออ คือ พระสูตรกล่าวไว้ว่า “มีหาพอยู่ 7 ประเภท นั้นคือ ภพในตติย 5 กรรมมาพ และอันตราพ” คำศัพท์ว่า antarabhava ประกอบขึ้นจาก antara กับ bhava 2 ส่วน ซึ่ง “antara” สามารถทำหน้าที่เป็นคำวิตถุแสดงคำคุณนบ หรือ คำอุปสรรคที่เพิ่มเข้าไปด้านหน้าคำอื่นๆ แล้วให้ความหมายว่า “อยู่ใน ระหว่าง” หรือ “อยู่ตรงกลาง” (in between)42 ส่วน “bhava” ถูกริบใน ความหมายของ “รูปแบบของการเกิด” (form of rebirth) “สภาวะการ ดำรงอยู่” (state of existence) หรือ “ชีวิต” (life)43 ซึ่งตามมติของนิยาย สวรรคติวาท “bhava” หรือ “ภาพ” ถูกแบ่งออกเป็น 4 ช่วงเวลา44 ได้แก่ 1) มรณภาพหมายถึง ช่วงเวลาที่สัตว์กำลังจิต 2) อันตราพหมายถึง ช่วงเวลาหลังจากมรณภาพ จนถึง ก่อนช้วยณะของอวัตติพที่สัตว์นั้นได้ไปสู่สุนธินใหม่ ———————————————— 41 29.475a26-27 42 PED s.v. “antara.” 43 PED s.v. “bhava.” 44 T27.309b4-5 45 มรณภาพ (Skt, Pāli: maraṇa-bhava; Chi: 死有) อันตรภาพ (Skt, Pāli: antarā-bhava; Chi: 中有) อุบัติภาพ (Skt, Pāli: upapatti-bhava; Chi: 生有) ปุพพภาคภาพ (Skt: pūrvakāla-bhava; Pāli: pubbākāla-bhava; Chi: 本有)
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หน้าหนังสือทั้งหมด

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More