ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธุดงควัตร
๑๓ ข้อ เลือกประพฤติได้ตามอัธยาศัย
ธุดงควัตรนี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะภาวะของพระภิกษุ
แม้ฆราวาสก็ปฏิบัติได้ เพียงแต่ให้เลือกปฏิบัติตาม
ความเหมาะสม ธุดงควัตรของพระภิกษุในสมัย
พุทธกาลมีอยู่ ๑๓ ข้อ ได้แก่
๑.
ปังสุกุลกังคะ ถือใช้แต่ผ้าบังสุกุลที่เขาทิ้ง
ไว้ไม่มีเจ้าของและจะรับผ้าจากทายกถวายไม่ได้
๒. เตจีวริกังคะ ใช้ผ้าเพียงสามผืนเท่านั้น เกิน
กว่านั้นใช้ไม่ได้
๓. ปิณฑปาติยังคะ ฉันแต่เฉพาะอาหารที่ได้
มาจากการรับบิณฑบาตเท่านั้น
๔. สปทานจาริกังคะ เดินบิณฑบาตแต่เฉพาะ
ทางที่กำหนดไว้ทางเดียวเท่านั้น
๕. เอกาสนิกังคะ ฉันมื้อเดียว (ต่อวัน)
5. ปัตตปิณฑิกังคะ ฉันสำรวมโดยนำอาหาร
เทรวมกันในบาตร
๗. ขลุปัจฉาภัตติยังคะ ลงมือฉันแล้วไม่รับเพิ่ม
ทีหลัง
อารัญญิกังคะ อยู่ในป่าเป็นวัตร
๙.
D
รุกขมูลกังคะ อยู่ใต้โคนไม้เป็นวัตร
๑๐. อัพโภกาสกังคะ อยู่กลางแจ้ง เช่น ตาม
ท้องทุ่งนาเป็นวัตร
๑๑. โสสานิกังคะ อยู่ป่าช้าเป็นวัตร
๑๒. ยถาสันถติยังคะ อยู่ในที่พักที่เขาจัดให้
โดยไม่เลือก
๑๓. เนสัชชิกังคะ ถืออิริยาบถนั่งอย่างเดียวโดย
ไม่นอนเป็นวัตร
๑๓
ธุดงค์ทั้ง ข้อนี้ ในแต่ละข้อ พระท่านก็
จะแบ่งย่อยลงไปอีกว่า จะสามารถบำเพ็ญเคร่งครัด
ได้มากน้อยเท่าใด โดยจะแบ่งเป็นวัตรขั้นสูงหรือ
ขั้นอุกฤษฎ์, ขั้นกลาง, ขั้นต่ำ ยกตัวอย่าง เช่น
ธุดงค์ข้อที่ “อยู่ในป่าช้าเป็นวัตร” หากใครต้องการ
บำเพ็ญขั้นอุกฤษฎ์ จะต้องอยู่แต่ในป่าช้าที่มีลักษณะ
๓ อย่าง ได้แก่ ๑.) มีการเผาศพเป็นประจำ ๒.) มี
ซากศพนอนทอดร่างมิได้ขาด ๓.) มีเสียงร่ำไห้
คร่ำครวญของผู้คนเนืองนิตย์ และบางครั้งถึงกับ
นอนใกล้ศพหรือนอนบนโลงศพเลยก็มี ขั้นกลาง :
จะถือวัตรพักอาศัยอยู่ในป่าช้าที่เข้าลักษณะ ๑ ใน ๓