ข้อความต้นฉบับในหน้า
คุณกำลังแสวงหาอะไรอยู่ไหม คุณได้พบสิ่งนั้นแล้วหรือยัง และสิ่งที่กำลัง
แสวงหานั้นอยู่ไกลเกินไปหรือเปล่า คุณไม่จำเป็นต้องรีบตอบคำถามดังกล่าว
ในทันที จนกว่าจะอ่านเรื่องราวของนักร้องก้องโลกผู้นี้จนจบ เพราะเรื่องราว
ของเธออาจจะทำให้คุณได้รับคำตอบอันแสนวิเศษอย่างคาดไม่ถึง
เคลลี่ นิวตัน-เวิร์ดส์เวิร์ธ นักร้องชื่อดังจาก
อีกด้านหนึ่งของชีวิตที่นอกเหนือจากการเป็น
เมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย เกิดและเติบโตมา นักร้อง นักแต่งเพลงก้องโลกแล้วเคลลี่ นิวตัน-
ในครอบครัวของนักดนตรี และพี่ชายของเธอได้
ร่วมกันตั้งวงซิมโฟนีออเคสตราออสเตรเลียตะวันตก
เธอหัดเล่นกีตาร์ด้วยตัวเองตั้งแต่อายุ 5 ขวบ และ
มีคอนเสิร์ตของตัวเองครั้งแรกตั้งแต่อายุ ๗ ขวบ
ตลอดช่วงเวลาที่เรียนหนังสือ เธอผลิตผลงานต่างๆ
มากมาย และก็ได้รับรางวัลทั้งการแสดงละครและ
ร้องเพลง เธอเคยปฏิเสธที่จะแสดงภาพยนตร์กับ
นิโคล คิดแมน เพราะเวทีแห่งการขับร้องยั่วยวน
หัวใจมากกว่า เธอจึงได้หันมาจัดรายการวิทยุใน
ออสเตรเลีย และก็เปิดเพลงของตนเองออกอากาศ
ในรายการ ทำให้เพลงของเธอนั้นเป็นที่รู้จักกันทั่ว
ออสเตรเลีย หลังจากนั้นชีวิตแห่งการเป็นนักร้อง
และนักแต่งเพลงมืออาชีพ ก็ประสบความสำเร็จ
อย่างสูงสุด การันตีด้วยรางวัลและเกียรติยศต่างๆ
มากมาย ทั้งรางวัลชนะเลิศบทเพลงยอดเยี่ยมจาก
สมาคมอุตสาหกรรมเพลงออสเตรเลียน, รางวัล
นักแต่งเพลงและนักร้องหญิงยอดเยี่ยม, ชนะเลิศ
รางวัล อัลบั้มที่ขายดีที่สุดในออสเตรเลียตะวันตก,
เธอได้รับการยอมรับมากจากสมาคมนักแต่งเพลง
ออสเตรเลียว่า เป็นสุดยอด ๑ ใน ๑๐๐ ของศิลปิน
นักแต่งเพลงออสเตรเลีย ด้วยเพลง “One World,
One Planet” ซึ่งเป็นเพลงที่เรียกร้องให้ทุกคนใส่ใจ
กับโลกใบเดียวที่พวกเรามี และถึงเวลาแล้วที่พวกเรา
จะต้องดูแลรักษาโลกใบนี้ให้ดีกว่าเดิม เกียรติยศ
และรางวัลต่างๆ ที่เธอได้รับทั้งภายในประเทศ
ออสเตรเลียและต่างประเทศ มากมายเกินกว่าที่จะ
นํามาเขียนได้หมด
เวิร์ดสเวิร์ธ ยังเป็นคริสต์ศาสนิกชนที่เคร่งครัดใน
คำสอน และอุทิศชีวิตให้พระเจ้ามาตั้งแต่ ๑๙ ปี
ที่แล้ว เธอบอกว่า “ฉันอยากพบพระเจ้าเป็นที่สุด
ฉันอธิษฐานขอให้พระองค์นำทางชีวิตฉันมาตลอด”
จนกระทั่งปีนี้ (พ.ศ. ๒๕๕๐) เมื่อเธอได้มา
เมืองไทย และได้รับการชักชวนจากคุณหม่อม
(หม่อมหลวงรัชฎาราศรี ชยางกูร) ให้มาที่
วัดพระธรรมกาย มาพบกับหลวงพ่อธัมมชโยเป็น
ครั้งแรกซึ่งทำให้เธอได้รู้จักกับวิธีการนั่งสมาธิอีกครั้ง
เธอเล่าว่า “เมื่อหลายสิบปีก่อนฉันก็เคยฝึกสมาธิ
แต่ครั้งนั้นน่าเบื่อมาก นั่งไป 6 ชม. เครียดแล้ว
เครียดอีก แต่การนั่งครั้งนี้ ด้วยเทคนิคของหลวงพ่อ
ฉันนั่งโดยไม่ต้องทำอะไร กลับได้ประสบการณ์ที่
ยิ่งใหญ่เป็นความรู้สึกที่ไม่สามารถบรรยายได้เลยค่ะ”
ในคืนหนึ่ง หลังกลับจากคอนเสิร์ตประมาณ
เที่ยงคืนครึ่งก่อนเข้านอน เธอได้ลองหลับตาทำสมาธิ
วางใจนิ่งๆ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ไม่นานเธอ
ก็ได้พบกับประสบการณ์ภายในอันยอดเยี่ยม
๗
“แรกๆ ฉันหลับตาวางใจที่ศูนย์กลางกาย ก็
เห็นแสงสว่างเกิดขึ้น รู้สึกเหมือนได้เข้าไปในทะเล
แห่งพลังงาน แล้วก็เห็นลูกบอลแห่งความรัก มี
แสงสว่างเหมือนดวงดาว บางครั้งเหมือนใช้กล้อง
ส่องทางไกล ส่องเข้าไปในอวกาศ มองเห็นดวงดาว
มากมาย เหมือนเห็นทั้งกาแล็กซี (Galaxy) ฉันรู้สึก
สงบสุขและเหมือนตัวเองอยู่ในจักรวาลโล่งๆ กว้างๆ
สบายๆ ฉันเป็นศูนย์กลางของจักรวาล เป็นแสงสว่าง
ที่อยู่ตรงกลางซึ่งทรงพลังมาก มีความรู้สึกตื่นตัว