ข้อความต้นฉบับในหน้า
เพราะคนที่มานั่งสมาธิกันที่นี่ มีแต่เจ้าของกิจการ
เจ้าของร้าน และนายห้าง ละแวกประตูน้ำที่รวยๆ
กันทั้งนั้น ส่วนเราสองคนเป็นแค่แผงลอยแบกะดิน
เร่ร่อน เรากลัวเขาจะว่าเราว่า เป็นพวกไม่เจียม ไม่มี
จะกินแล้วยังมานั่งสมาธิอีก ตอนนั้นเราจะชอบ
เวลาที่เจ้าหน้าที่เขาปิดไฟให้นั่งสมาธิมากๆ เพราะ
ความมืดทำให้ไม่มีใครมองเห็นเรา ไม่รู้ว่าเราเป็นใคร
ซึ่งตอนเลิกนั่งสมาธิเขามีการใส่ซองทำบุญ นายห้าง
แต่ละคน เขาใส่แบงค์ ๑๐๐ แบงค์ ๕๐๐ ส่วนเรา
รู้สึกอายที่เรา ๒ คนมีทำบุญคนละแค่ ๑๐ บาท
แต่ก็ยอมทนอายมาศูนย์ทุกวันศุกร์ ด้วยความที่อยาก
ฟังธรรมะจากพระอาจารย์ เพราะยิ่งมาก็ยิ่งทำให้
เราเข้าใจเรื่องบุญมากขึ้นๆ รู้ว่าสาเหตุที่ชีวิตเราต้อง
อแบบนี้ก็เพราะเราไม่ได้ทำบุญมา พอรู้และ
เข้าใจอย่างนี้ทำให้เราพยายามทำบุญเรื่อยๆ จน
กระทั่งชีวิตเริ่มดีขึ้น คือวันที่เราขายของไม่ได้ถี่ๆ
มาเจอแบ
ติดต่อกันนั้นไม่มีอีกเลย หากวันที่ขายไม่ดีจริงๆ ก็
จะขายได้อย่างน้อย ๑ ตัว
พอมาศูนย์ปฏิบัติธรรมประตูน้ำบ่อยเข้า ก็
เริ่มมีคนชวนเรามาวัด ซึ่งเราก็จะวิ่งไปเอากระปุก
ออมสินที่คอยหยอดเหรียญไว้เป็นค่าข้าว ค่าน้ำแข็ง
ยกมาทั้งกระปุกเพื่อขอถวายหลวงพ่อกับเขาบ้าง
แม้เราไม่มีเงินก้อนใหญ่ๆ ทำบุญ แต่มีเท่าไรก็จะ
ทยอยเอามาทำบุญสร้างองค์พระ เทกันจนเกลี้ยง
กระเป๋า เราทำอย่างนี้มาตลอด ๒ ปีกว่า นับตั้ง
แต่เริ่มรู้จักวัด เพราะเราเชื่อมั่นในบุญ อย่างครั้งหนึ่ง
ช่วงที่เข้าตาจน ไม่มีจะกินแม้แต่น้ำก๋วยเตี๋ยว หรือ
น้ำมาม่า มื้อต่อไปก็ไม่รู้จะกินอะไรกันแล้ว เรากลับ
ตัดสินใจไปวัด ไปนั่งสมาธิทั้งน้ำตาไหลพรากๆ
นั่นแหละ เรานั่งอธิษฐานขอให้หลวงปู่ช่วย เพราะไม่
อยากให้ความจนบีบคั้นให้เรากลับไปเป็นลูกจ้างเขา
อีก หากกลับไปจะไม่มีโอกาสได้มาวัดสร้างบุญ แม้