ข้อความต้นฉบับในหน้า
เทพธิดาแผงลอย
ผู้รื้อผังความลำบากยากจน
“ความไม่มีมันบีบคั้นให้เราต้องกินน้ำก๋วยเตี๋ยวถ้วยเล็กๆ กับข้าวเปล่า แถมต้องแบ่งกันกินถึง
๒ คน สภาพเราตอนนั้น คงไม่มีใครคิดหรอกว่า หลังจากนั้นอีก ๓ ปี จะมีเงินทำบุญถึงล้านห้า
แถมมีเงินสดซื้อที่อยู่เป็นของตัวเองอีกล้านห้า..!!
สมเพียร ปราบศัตรู และ จันทนา ศรีเมือง
แม่ค้าแผงลอย ที่เร่ร่อนขายของอยู่แถวประตูน้ำ
“เราเคยเป็นเด็กข้างถนนที่ยืนขายลูกเหม็น
ห่อเล็ก ๆ เดินขายพวงมาลัยตามทางเท้า วิ่งหนี
ตำรวจเทศกิจมาตั้งแต่ ๑๐ ขวบ ชีวิตเราไม่เหมือน
เด็กคนอื่น ที่ได้เล่น ได้ดูการ์ตูน ความลำบาก
ติดตัวเราจนโต แม้ตอนมาเป็นลูกจ้างแล้ว ก็ต้องยืน
ขายของ ยกของ ขนของ เป็นเด็กวิ่งส่งกาแฟ ทำงาน
ตั้งแต่ 6 โมงเช้า จรด 5 โมงเย็น ต้องทำทุกอย่างที่
นายจ้างสั่ง เพื่อแลกกับเงินเดือนขั้นต้น ๔,๕๐๐ บาท
พอสิ้นเดือนเงินก็แทบไม่เหลือ เพราะต้องจ่ายค่าเช่า
ห้อง ค่าของกิน ของใช้...
จนต่อมาได้มารู้จักเพื่อนที่เป็นลูกจ้างร้านเยื้อง
กัน เรามีสภาพที่ไม่ต่างกันมากนัก คือ เรียนมาน้อย
ต้องเริ่มต้นทำงานตั้งแต่เป็นเด็กวิ่งซื้อกับข้าวในร้าน
ตัดเย็บ จนขยับมาเป็นลูกจ้างหน้าร้าน ต้องเป็นผ้า
ขนกระสอบหนักกว่า ๓๐ กิโลกรัม บางทีก็ต้องเลิก
๒
งานดึกกว่าเราคือ ๒ ทุ่ม เพราะต้องรอส่งของลูกค้า
เราจึงมีความคิดตรงกันว่า อายุเราก็มากขึ้นทุกวัน
หากยังต้องทำงานหนัก แล้วสุดท้ายเงินเดือนไม่
เหลือแบบนี้ อนาคตคงแย่แน่ๆ เราจึงปรึกษากันว่า
หลังจากเลิกงานแล้ว กลางคืนจะไปหารายได้พิเศษ
ขายของแผงลอย แต่เนื่องจากไม่มีทุน จึงตัดสินใจ
เอาเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋าในตู้ของพวกเรากันเอง
มาขายเป็นสินค้ามือสอง ขายตัวละ ๓๐ บาทบ้าง
๒๐ บาทบ้าง ขายจนมีเหลือสำหรับใช้จริงๆ ไม่กี่ตัว
พอเสื้อผ้าหมดก็ต้องหาของอื่นมาขาย เอาหนังสือ
นิตยสารที่เขาให้มาขายเล่มละ ๕ บาท บางทีก็
ต้องไปเก็บของจากกองขยะที่เขาทิ้งแล้ว เช่น รองเท้า
ผ้าใบมาซักให้สะอาดแล้วขาย แม้จะพอขายได้ แต่