เทพธิดาแผงลอย วารสารอยู่ในบุญ ประจำเดือน ธันวาคม พ.ศ.2550 หน้า 61
หน้าที่ 61 / 100

สรุปเนื้อหา

เรื่องราวของสมเพียร ปราบศัตรู และจันทนา ศรีเมือง เริ่มต้นจากการเป็นเด็กข้างถนนที่ขายของเล็กๆ น้อยๆ จนเติบโตขึ้น และต้องทำงานหนักเพื่อหารายได้ประทังชีวิต หลังจากนั้นทั้งคู่ได้ร่วมมือกันขายของแผงลอย โดยใช้เสื้อผ้าและสิ่งของมือสองเพื่อสร้างรายได้เสริมและสร้างอนาคตที่ดีขึ้น ผ่านความยากลำบาก แต่ยังคงมีความหวังและความมานะในการเผชิญกับชีวิต

หัวข้อประเด็น

-ชีวิตแม่ค้าแผงลอย
-แรงบันดาลใจ
-การแสดงถึงความพยายาม
-ความลำบากในวัยเด็ก
-อนาคตที่ดีขึ้น

ข้อความต้นฉบับในหน้า

เทพธิดาแผงลอย ผู้รื้อผังความลำบากยากจน “ความไม่มีมันบีบคั้นให้เราต้องกินน้ำก๋วยเตี๋ยวถ้วยเล็กๆ กับข้าวเปล่า แถมต้องแบ่งกันกินถึง ๒ คน สภาพเราตอนนั้น คงไม่มีใครคิดหรอกว่า หลังจากนั้นอีก ๓ ปี จะมีเงินทำบุญถึงล้านห้า แถมมีเงินสดซื้อที่อยู่เป็นของตัวเองอีกล้านห้า..!! สมเพียร ปราบศัตรู และ จันทนา ศรีเมือง แม่ค้าแผงลอย ที่เร่ร่อนขายของอยู่แถวประตูน้ำ “เราเคยเป็นเด็กข้างถนนที่ยืนขายลูกเหม็น ห่อเล็ก ๆ เดินขายพวงมาลัยตามทางเท้า วิ่งหนี ตำรวจเทศกิจมาตั้งแต่ ๑๐ ขวบ ชีวิตเราไม่เหมือน เด็กคนอื่น ที่ได้เล่น ได้ดูการ์ตูน ความลำบาก ติดตัวเราจนโต แม้ตอนมาเป็นลูกจ้างแล้ว ก็ต้องยืน ขายของ ยกของ ขนของ เป็นเด็กวิ่งส่งกาแฟ ทำงาน ตั้งแต่ 6 โมงเช้า จรด 5 โมงเย็น ต้องทำทุกอย่างที่ นายจ้างสั่ง เพื่อแลกกับเงินเดือนขั้นต้น ๔,๕๐๐ บาท พอสิ้นเดือนเงินก็แทบไม่เหลือ เพราะต้องจ่ายค่าเช่า ห้อง ค่าของกิน ของใช้... จนต่อมาได้มารู้จักเพื่อนที่เป็นลูกจ้างร้านเยื้อง กัน เรามีสภาพที่ไม่ต่างกันมากนัก คือ เรียนมาน้อย ต้องเริ่มต้นทำงานตั้งแต่เป็นเด็กวิ่งซื้อกับข้าวในร้าน ตัดเย็บ จนขยับมาเป็นลูกจ้างหน้าร้าน ต้องเป็นผ้า ขนกระสอบหนักกว่า ๓๐ กิโลกรัม บางทีก็ต้องเลิก ๒ งานดึกกว่าเราคือ ๒ ทุ่ม เพราะต้องรอส่งของลูกค้า เราจึงมีความคิดตรงกันว่า อายุเราก็มากขึ้นทุกวัน หากยังต้องทำงานหนัก แล้วสุดท้ายเงินเดือนไม่ เหลือแบบนี้ อนาคตคงแย่แน่ๆ เราจึงปรึกษากันว่า หลังจากเลิกงานแล้ว กลางคืนจะไปหารายได้พิเศษ ขายของแผงลอย แต่เนื่องจากไม่มีทุน จึงตัดสินใจ เอาเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋าในตู้ของพวกเรากันเอง มาขายเป็นสินค้ามือสอง ขายตัวละ ๓๐ บาทบ้าง ๒๐ บาทบ้าง ขายจนมีเหลือสำหรับใช้จริงๆ ไม่กี่ตัว พอเสื้อผ้าหมดก็ต้องหาของอื่นมาขาย เอาหนังสือ นิตยสารที่เขาให้มาขายเล่มละ ๕ บาท บางทีก็ ต้องไปเก็บของจากกองขยะที่เขาทิ้งแล้ว เช่น รองเท้า ผ้าใบมาซักให้สะอาดแล้วขาย แม้จะพอขายได้ แต่
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More