ข้อความต้นฉบับในหน้า
๗๓
ตั้งแต่ปู่ผงรู้จักวัดพระธรรมกายท่านก็ได้มาวัด อย่างงงๆ แล้วหลวงปู่ท่านก็ลุกไปตรวจงานโรงเรียน
แต่ก็มาไม่ค่อยไหว เพราะชรามากแล้ว ถ้าจะมา
ต้องให้คนไปรับ แต่ลูกจะสังเกตเห็นว่า ปู่ผงจะมี
ความปีติดีใจทุกครั้งไม่ว่าวัดจะมีการทำบุญอะไร
โดยเฉพาะบุญที่เกี่ยวข้องกับหลวงปู่ ท่านบอกว่า
หลวงปู่เคยบอกท่านว่า “ใครทำอะไรให้หลวงปู่
ไม่ว่าท่านมีชีวิตอยู่หรือตายแล้ว ได้บุญไม่ต้องพูด
กันละ” ลูกจึงถามต่อว่า ทำไม...ไม่ต้องพูดกันละ..??
ผงตอบว่า “ก็ได้บุญมากนะสิ ขนาดประมาณไม่ได้
เป็นอสงไขย เป็นกัปๆ เลย....
ปริยัติของท่านต่อ ลุงหลอมจึงได้แต่คิดในใจว่า
“หลวงพ่อคงจะหลงเสียแล้ว อยู่ๆ ก็มายื่นพระให้
เรา...” แล้วลุงก็คิดต่อว่า หากหลวงปู่กลับเข้ามาอีก
ลุงก็จะถวายคืนให้ท่าน แต่พอถวายคืน หลวงปู่
กลับบอกว่า “กูให้มึง เก็บไว้ให้ดีนะอย่าให้หาย เป็น
พระประจำตัวกู” ซึ่งลุงเองดีใจมาก บูชาท่านด้วย
ดอกมะลิทุกวัน ต่อมาหลังจากที่ลุงหลอมมาเจอผู้
สืบทอดวิชชาธรรมกาย ซึ่งตรงตามที่หลวงปู่ได้บอก
ไว้กับลุงหลอมทุกประการ ซึ่งก็คือพระเดชพระคุณ
ต่อมาในบั้นปลายชีวิต ผงมองไม่เห็น มี หลวงพ่อ ลุงหลอมจึงถวายพระประจำตัวองค์นี้ และ
อาการเหมือนเป็นตาต้อ จึงได้รับความเมตตาจาก สิ่งของของหลวงปู่ทั้งหมดที่พอจะรวบรวมได้แด่ท่าน
พระเดชพระคุณหลวงพ่อให้หมอมารักษาตาให้ท่าน ลุงหลอมบอกว่า พอได้น้อมถวายท่านแล้ว ก็รู้สึก
แต่หมอบอกว่าประสาทตาตายหลายปีแล้วไม่สามารถ
รักษาให้หายได้ และท่านเสียชีวิตด้วยโรคอัมพฤกษ์
ในวัย ๙๐ ปี
หมดห่วง เพราะท่านจะนำไปทำประโยชน์ต่อวิชชา
ธรรมกายสืบไป และยิ่งไปกว่านั้นลุงหลอมยังได้
ถวายที่ดินที่เป็นส่วนของท่าน ซึ่งเมื่อก่อนเคยเป็น
สมบัติของโยมพ่อโยมแม่หลวงปู่ ถวายเพื่อสร้างให้
เป็นอนุสรณ์สถานให้กับหลวงปู่อีกด้วย
ป้าละออ ท่านเป็นพี่สาวคนโตของลุงหลอม
ท่านเสียชีวิตไปแล้วด้วยโรคชราและอัมพาต ท่าน
ลุงฉลอม ทั่วไปจะเรียกท่านจนคุ้นปากกันว่า
ลุงหลอม ปัจจุบันท่านอายุ ๘๔ ปีแล้ว ท่านเป็น
หนึ่งในอุปัฏฐากคนสำคัญอีกคนหนึ่งของหลวงปู่
ท่านมีศักดิ์เป็นหลานแท้ๆ ของหลวงปู่ ท่านได้พบ
หลวงปู่ตั้งแต่ ๕ ขวบ เพราะโยมแม่ของหลวงปู่ได้ ได้สร้างบุญมากับหลวงปู่ และยังได้มีโอกาสมา
พามาวัดปากน้ำด้วยกัน ต่อมามีโอกาสได้บวชเป็น สร้างบุญต่อกับพระเดชพระคุณหลวงพ่ออีกด้วย
สามเณรอยู่วัดปากน้ำ เมื่อลาสิกขาแล้วก็ยังไปมา ป้าละออเป็นคนมีความเคารพเลื่อมใสในวิชชา
วัดปากน้ำ ตราบกระทั่งหลวงปู่อาพาธ ท่านก็ได้ ธรรมกายมาก ทันทีที่ท่านทราบเรื่องว่าพระเดช
กลับมาอุปัฏฐากดูแลใกล้ชิด จนกระทั่งบ่ายวันหนึ่ง พระคุณหลวงพ่อจะรวบรวมที่ดินซึ่งเคยเป็นบ้าน
หลวงปู่เอ่ยกับลุงว่า “กูมันถึงกำหนดแล้ว หมอให้ เกิดหลวงปู่ เพื่อสร้างเป็นอนุสรณ์สถานถวายหลวงปู่
วิเศษอย่างไร ก็เอากูไม่อยู่แล้ว กูจะต้องไป ยาหยูก นั้น ป้าละออดีใจเป็นที่สุด ถึงกับร้องไห้น้ำตาไหล
หมอเขาให้กูกิน กูก็กิน แต่กรู้ว่ามันไม่หาย กูต้อง ด้วยความปีติ ในขณะที่นอนป่วยเป็นอัมพาตอยู่
ไปชุดนี้แหละ" และหลังจากนั้น ๒ เดือน อยู่ๆ ลุง ท่านก็ได้ยกที่ดินในส่วนที่เป็นของท่านทั้งหมดถวาย
ก็ได้สิ่งของอันล้ำค่าที่สุดในชีวิตจากหลวงปู่อย่าง ให้กับพระเดชพระคุณหลวงพ่อด้วยความปลื้มปีติ
คาดไม่ถึง สิ่งนั้นก็คือพระประจำตัวของหลวงปู่เอง เพื่อขอสร้างอนุสรณ์สถานบูชาหลวงปู่ด้วย และ
อยู่ๆ ท่านก็หยิบพระประจำตัวของท่านแล้วยื่นให้ลุง หลังจากนั้นไม่นาน ป้าละออก็ได้เสียชีวิตลงด้วย
โดยที่ท่านไม่พูดอะไรสักคำ ลุงก็ยื่นมือเข้าไปรับ วัย ๘๑ ปี