ข้อความต้นฉบับในหน้า
อ่อนสกัดเป็นน้ำข้าว แล้วนำมาเคี่ยวกับน้ำนม ผสม
เข้ากับเนยใส น้ำผึ้ง และน้ำตาลกรวด มหากาล
และชาวบ้านทำสุดฝีมือจนเป็นเครื่องดื่มน้ำนมข้าว
ที่เข้มข้นหวานหอมหวนอบอวลยิ่งนัก
เมื่อทำเสร็จก็เป็นผู้นำชาวบ้านพร้อมใจกัน
นำน้ำนมข้าวเลิศรสถวายแด่ภิกษุสงฆ์ มหากาลทูล
ขอพรจากพระบรมศาสดาว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
ทานอันเลิศของข้าพระองค์นี้ ขอจงเป็นไปเพื่อการ
บรรลุธรรมก่อนกว่าสาวกทั้งปวงในอนาคตกาลด้วย
พระเจ้าข้า” พระพุทธองค์ก็ตรัสอนุโมทนาแก่เขาด้วย
พระสุรเสียงอันไพเราะว่า “ขอพรจงสำเร็จทุกประการ
เถิด” เมื่อได้รับพรจากบุคคลผู้ประเสริฐเช่นนี้ เขา
มีความปีติยินดีซาบซ่านเกินเปรียบปานในมหาทาน
ที่ทำ
เมื่อกลับจากการถวายทาน เขาก็ไปตรวจตรา
ดูที่นาของตนตามปกติ จึงเห็นเหตุมหัศจรรย์ รวงข้าว
สาลีที่เก็บเกี่ยวไปแล้วกลับงอกงามเกิดขึ้นเต็มหนา
แน่นอุดมสมบูรณ์ทุกตารางพื้นที่ ยิ่งทำให้เขาเกิดปีติ
อย่างแรงกล้าในผลบุญทันตาเห็นเพราะทำถูกเนื้อนา
บุญ จนอดอุทานไม่ได้ว่า “โอ! ช่างเป็นบุญของเรา
แท้ ๆ
ต่อมาเมื่อเขาทำนาเสร็จในแต่ละขั้นตอน ก็
ปรารภเหตุทำบุญก่อนเสมอ โดยเป็นผู้นำชาวบ้านทำ
การคัดผลิตผลที่เลิศที่สุดไปทำบุญกับพระสงฆ์ก่อน
ที่จะนำไปทำอย่างอื่น และได้ทำต่อมาอีกหลาย ๆ
ครั้ง คือ หากยังไถนาหว่านข้าวอยู่ก็ปรารภเหตุทำบุญ
เมื่อข้าวแข็งตัวเป็นข้าวเม่า..ก็ทำข้าวเม่าถวาย เมื่อ
ข้าวตั้งท้องเป็นน้ำเหลวก็เคี่ยวเป็นน้ำนมข้าวถวาย
เมื่อเก็บเกี่ยว เมื่อมัดกำเหน็ด (เขม็ด = ฟางที่ทำ
เป็นเชือกมัดฟ่อนข้าว) เมื่อมัดฟ่อนข้าว เมื่อขนข้าว
เข้าลาน เมื่อนวดข้าว เมื่อขนข้าวขึ้นฉาง สรุปคือ
...ในฤดูข้าวครั้งหนึ่งกุลบุตรมหากาลได้ปรารภเหตุ
ทำบุญถึง ๙ ครั้ง
ทำก่อนรวยก่อน เข้าถึงธรรมก่อน
D