ข้อความต้นฉบับในหน้า
น้ำที่พุ่งขึ้นมาจากท่อเป็นลูกกลม ๆ เล็กเท่าแก้วตาดำ
ใสมาก สว่างมาก แต่ไม่นานพระอาจารย์ก็สัพเพ
และวันที่มหัศจรรย์ที่สุดในชีวิตอีกวันก็มาถึง
ตอนนั้นอาตมารู้สึกปล่อยวางมาก ภาวนา “สัมมา
อะระหัง” ไป ใจก็สงบ แล้วแสงสว่างก็มาเลย ต่อ
มาอาตมารู้สึกเหมือนหล่นวูบ โดนดูดลงไปเหมือน
เวลาเราตกเบ็ดแล้วปลาดึงเบ็ดไป พอนั่งไปอีกก็เห็น
องค์พระผุดขึ้นมาในลูกแก้วใส ๆ ผุดขึ้นมาเหมือน
น้ำที่พุ่งขึ้นมาจากท่อเป็นดวงกลม ๆ ใสแจ๋ว เท่า
ฟองไข่แดง พอทำใจนิ่ง ๆ ความสว่างก็มากขึ้น
แล้วแสงที่อยู่ในตัวพระก็สว่างขึ้นจนทะลุลูกแก้วออก
มา องค์พระก็ใสมาก สวยมาก มองแล้วสบายตามาก
เวลามองลงไปก็จะเห็นแสงสว่างเป็นวงซ้อน ๆ กัน
แทงขึ้นมาจากข้างล่าง ผ่านหน้าอาตมาไปเร็วมาก
พอประคองใจนิ่ง ๆ ไม่คิดอะไร ก็มีพระอีกองค์
ช้อนตัวขึ้นมา ใหญ่ขึ้นเหมือนจะทะลุตัวอาตมาไป
ตอนนั้นอาตมาเหมือนอยู่ในที่ที่มีแต่ความสุข แล้ว
ใจก็นิ่งสุด ๆ นิ่งเหมือนเรานอนหลับ ไม่รับรู้อะไร
ไม่คิดอะไรเลย แล้วอาตมาก็จะยิ้มอยู่คนเดียว จน
เพื่อน ๆ ถามว่า “บ้าหรือเปล่า ยิ้มอยู่ได้คนเดียว”
อาตมาก็คิดในใจว่า “ก็มันมีความสุขนี้ครับ
ตอนนี้ไม่ว่าจะนั่ง นอน ยืน เดิน ถ้าประคอง
ใจไปที่ฐานที่ ๗ อาตมาก็จะเห็นองค์พระที่มีดวงแก้ว
ล้อมรอบแจ่มมาก มีแสงสว่างเยอะมากตลอดเวลา
อาตมารู้สึกรักองค์พระและดวงแก้วมาก ๆ เป็นความ
รักความผูกพันแบบที่ไม่เคยมีให้ใครมาก่อนเลยใน
ชีวิต...
เรื่องในอดีตที่พระบรมศาสดาสัมมา
สัมพุทธเจ้าตรัสเล่าให้พระภิกษุ
ทั้งหลายฟังนั้นมีใจความว่า
ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราช
สมบัติอยู่ในกรุงพาราณสี พระโพธิสัตว์อุบัติใน
ตระกูลคหบดีตระกูลหนึ่ง ครั้นเจริญวัยแล้ว บิดา
ถึงแก่กรรม พระโพธิสัตว์ได้ทำงานรับจ้างเลี้ยงมารดา
ครั้งนั้น มารดาไปสู่ขอธิดาตระกูลหนึ่งมาไว้ในเรือน
ให้พระโพธิสัตว์ ทั้ง ๆ ที่พระโพธิสัตว์ไม่ต้องการ
แล้วนางก็ถึงแก่กรรม
ฝ่ายภรรยาของพระโพธิสัตว์ก็ตั้งครรภ์ พระ
โพธิสัตว์ไม่รู้ว่านางตั้งครรภ์จึงบอกว่า “ดูก่อนนาง
เจ้าจงรับจ้างเขาเลี้ยงชีวิตเถิด ฉันจักบวชละ” นาง
จึงกล่าวว่า “ฉันตั้งครรภ์ เมื่อฉันคลอดแล้ว พี่เห็น
เด็กแล้วก็บวชเถิด” พระโพธิสัตว์ก็รับคำ พอนาง
คลอดพระโพธิสัตว์จึงบอกว่า “น้องคลอดเรียบร้อย
แล้ว พี่จักบวชละ” นางจึงกล่าวว่า “จงรอให้ลูกหย่า
นมเสียก่อนเถิด” แล้วก็ตั้งครรภ์อีก พระโพธิสัตว์
ดำริว่า เราคงไม่อาจทำให้นางยินยอมให้เราจากไป
ได้ เราจะไม่บอกนางแล้ว เราจะหนีไปบวช พอตก
กลางคืนก็ลุกหนีไป ออกทางประตูพระนคร แล้ว