การฝึกสมาธิเพื่อเข้าถึงดวงปฐมมรรค วารสารอยู่ในบุญ ประจำเดือน  พฤศจิกายน พ.ศ.2553 หน้า 115
หน้าที่ 115 / 128

สรุปเนื้อหา

บทความนี้แนะนำวิธีการฝึกสมาธิเพื่อให้เข้าถึง "ดวงปฐมมรรค" โดยเน้นความสำคัญของการตั้งจิตอยู่ที่ศูนย์กลางกาย ทำให้องค์ประกอบต่างๆ ของชีวิตปรากฏชัด ตลอดจนลงลึกไปในขั้นตอนการทำสมาธิ ไม่ว่าจะในอิริยาบถไหนก็ตาม เขียนถึงความสำคัญของการระลึกคิดถึงนิมิตและการทำสมาธิอย่างสม่ำเสมอเพื่อเกิดดวงสว่างที่ใจ รวมถึงความไม่ประมาทในการดำรงชีวิต นอกจากนี้ยังแนะนำหลักการที่ไม่ควรทำในการฝึกเพื่อหลีกเลี่ยงการเบี่ยงเบนของจิต ในการสร้างสันติสุขในสังคม

หัวข้อประเด็น

-การฝึกสมาธิ
-ดวงปฐมมรรค
-นิมิต
-การระลึกถึง
-การสร้างความสุข

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ตรงกลางนั้นไปเรื่อยๆ ใจจะปรับจนหยุดได้ถูกส่วน ทำได้แค่ไหน ให้พอใจแค่นั้น ซึ่งจะเป็นการป้องกัน เกิดการตกศูนย์และเกิดดวงสว่างขึ้นมาแทนที่ มิให้เกิดความอยากจนเกินไป จนถึงกับทำให้ใจ ดวงนี้เรียกว่า “ดวงธรรม” หรือ “ดวงปฐมมรรค” ต้องสูญเสียความเป็นกลาง และเมื่อการฝึกสมาธิ อันเป็นประตูเบื้องต้นที่จะเปิดไปสู่หนทางแห่ง บังเกิดผลจนได้ “ดวงปฐมมรรค” ที่ใสเกินใส มรรคผลนิพพาน การระลึกนึกถึงนิมิตสามารถทำได้ในทุกแห่ง ทุกที่ ทุกอิริยาบถ ไม่ว่าจะนั่ง นอน ยืน เดิน หรือ ขณะทำภารกิจใดๆ ข้อแนะนำ คือ ต้องทำให้สม่ำเสมอเป็น ประจำ ทำเรื่อยๆ ทำอย่างสบายๆ ไม่เร่ง ไม่บังคับ ข้อควรระวัง ๑. อย่าใช้กำลัง คือไม่ใช้กำลังใดๆ ทั้งสิ้น เช่น ไม่บีบกล้ามเนื้อตาเพื่อจะให้เห็นนิมิตเร็วๆ ไม่เกร็งแขน ไม่เกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้อง ไม่เกร็งตัว ฯลฯ เพราะการใช้กำลังตรงส่วนไหนของร่าง กายก็ตาม จะทำให้จิตเคลื่อนจากศูนย์กลางกาย ไปสู่จุดนั้น ๒. อย่าอยากเห็น คือทำใจให้เป็นกลาง ประคองสติมิให้เผลอ จากบริกรรมภาวนาและ บริกรรมนิมิต ส่วนจะเห็นนิมิตเมื่อใดนั้น อย่ากังวล ถ้าถึงเวลาแล้วย่อมเห็นเอง การบังเกิดของดวง- สวยเกินสวย ติดสนิทมั่นคงอยู่ที่ศูนย์กลางกายแล้ว ให้หมั่นตรึกระลึกนึกถึงอยู่เสมอ อย่างนี้แล้ว ผลแห่งสมาธิจะทำให้ชีวิตดำรง อยู่บนเส้นทางแห่งความสุข ความสำเร็จและ ความไม่ประมาทได้ตลอดไป ทั้งยังจะทำให้สมาธิ ละเอียดลุ่มลึกไปตามลำดับอีกด้วย ๔. เมื่อเลิกจากนั่งสมาธิแล้ว ให้ตั้งใจไว้ที่ ศูนย์กลางกายที่เดียว ไม่ว่าจะอยู่ในอิริยาบถใด ก็ตาม เช่น ยืนก็ดี เดินก็ดี นอนก็ดี หรือนั่งก็ดี อย่าย้ายฐานที่ตั้งจิตไปไว้ที่อื่นเป็นอันขาด ให้ตั้งใจ บริกรรมภาวนา พร้อมกับนึกถึงบริกรรมนิมิตเป็น ดวงแก้วใสควบคู่กันตลอดไป ๕. นิมิตต่างๆ ที่เกิดขึ้น จะต้องน้อมไปตั้ง ไว้ที่ศูนย์กลางกายทั้งหมด ถ้านิมิตเกิดขึ้นแล้วหาย ไปก็ไม่ต้องตามหา ให้ภาวนาประคองใจต่อไปตาม ปกติในที่สุดเมื่อจิตสงบ นิมิตย่อมปรากฏขึ้นใหม่อีก การฝึกสมาธิเบื้องต้นเท่าที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ย่อมเป็นปัจจัยให้เกิดความสุขได้พอสมควร เมื่อ นิมิตนั้นอุปมาเสมือนการขึ้นและตกของดวงอาทิตย์ ซักซ้อมปฏิบัติอยู่เสมอๆ ไม่ทอดทิ้ง จนได้ดวงปฐม เราไม่อาจจะเร่งเวลาได้ ๓. อย่ากังวลถึงการกำหนดลมหายใจเข้า ออกเพราะการฝึกสมาธิเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกาย ภายใน อาศัยการนึกถึง “อาโลกกสิณ” คือกสิณ แสงสว่างเป็นบาทเบื้องต้น เมื่อฝึกสมาธิจนเข้าถึง ดวงปฐมมรรคแล้ว ฝึกสมาธิต่อไป ผ่านกาย มนุษย์ละเอียด กายทิพย์ กายรูปพรหม กายอรูป พรหม จนกระทั่งเข้าถึงพระธรรมกายแล้วจึง เจริญวิปัสสนาในภายหลัง ดังนั้นจึงไม่มีความ จําเป็นต้องกําหนดลมหายใจเข้าออกแต่ประการใด มรรคแล้ว ก็ให้หมั่นประคองรักษาดวงปฐมมรรค นั้นไว้ตลอดชีวิต ดำรงตนอยู่ในศีลธรรมอันดี ย่อม เป็นหลักประกันได้ว่าได้ที่พึ่งของชีวิตที่ถูกต้องดีงาม ที่จะส่งผลให้เป็นผู้มีความสุข ความเจริญ ทั้งใน ภพชาตินี้และภพชาติหน้า หากสามารถแนะนำต่อๆ กันไป ขยายไปยัง เหล่ามนุษยชาติ อย่างไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา และเผ่าพันธุ์ สันติสุขอันไพบูลย์ที่ทุกคนใฝ่ฝัน ก็ย่อมบังเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More