ข้อความต้นฉบับในหน้า
ตั้งแต่ลูกทราบว่าเขาเป็นโรคเบาหวานและต้องทรมานแบบนี้ ลูกก็คิดมาก
และทำใจไม่ได้มาตลอด จนบางครั้งลูกอยากจะรับเป็นโรคนี้เสียเอง และไม่เข้าใจ
ว่าทำไมโรคนี้ถึงได้มาเป็นกับเด็กที่อายุเพียงแค่นี้ด้วย ลูกทุกข์ใจมากจนกินไม่ได้
นอนไม่หลับ น้ำหนักลดลงไปถึง ๑๘ กิโลกรัม บ่อยครั้งที่น้ำตาของลูกไหลออกมา
อย่างไม่รู้ตัว..
ใช่เชื้อราหรือเปล่า ผลปรากฏว่าไม่ใช่ แต่ภายหลัง
ก็สรุปได้ว่าเป็นโรคสะเก็ดเงินที่เท้า หมอจึงฉีดยา
สเตียรอยด์เพื่อรักษา พอฉีดยา....แผลก็เริ่มแห้ง ตก
สะเก็ดและลอกออกมาเป็นแผ่น ๆ พอลอกเสร็จ แทน
ที่จะหายขาด กลับเป็นใหม่อีก จนต้องไปฉีดยาซ้ำ ๆ
แบบนี้ไม่รู้กี่เข็ม จนลูกไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว เพราะ
ตอนนี้เท้าทั้ง ๒ ข้างของลูกทั้งคัน ทั้งดำ ทั้งมีกลิ่น
และลูกก็อายเขามาก ๆ เพราะไปไหนก็มีแต่คนมอง
เท้า ลูกเป็นโรคนี้เรื้อรังจนถึงปัจจุบันนี้ 6 ปีแล้วค่ะ
และในช่วงเวลาเดียวกันกับที่ลูกเป็นโรคสะเก็ด
เงินนี้เอง สามีของลูกก็เป็นโรคภูมิแพ้ มีอาการแน่น
จมูก หายใจลำบากมาก และจามฝืดฟัด ๆ หมอให้
ทั้งยากิน ยาพ่นก็ยังไม่หาย เปลี่ยนหมอมาหลาย
หมอแล้วก็ยังไม่หายอีก เขาเป็นจนเรื้อรังถึงขั้นที่
จมูกไม่ได้กลิ่นอะไรเลยมาเป็นเวลาถึง 6 ปีเช่น
เดียวกับลูก
หลังตรวจพบว่าเป็นโรคเบาหวาน หมอบอกว่าต้อง
ฉีดอินซูลินไปตลอดชีวิต ทั้งเช้า ทั้งเย็น ต้องคอย
ระวังเรื่องอาหารและโรคแทรกซ้อน ระวังไม่ให้มี
บาดแผลเพราะแผลจะหายยาก ทุกวันนี้ลูกก็ต้องทำ
อาหารไปส่งเขาตอนกลางวันที่โรงเรียนทุกวัน ด้วย
ความที่รักลูกอย่างที่สุด ทำให้ลูกรู้สึกทรมานใจและ
ทุกข์ใจมากที่สุดเช่นกัน ตั้งแต่ลูกทราบว่าเขาเป็น
โรคเบาหวานและต้องทรมานแบบนี้ ลูกก็คิดมากและ
ทำใจไม่ได้มาตลอด จนบางครั้งลูกอยากจะรับเป็น
โรคนี้เสียเอง และไม่เข้าใจว่าทำไมโรคนี้ถึงได้มา
เป็นกับเด็กที่อายุเพียงแค่นี้ด้วย ลูกทุกข์ใจมากจน
กินไม่ได้นอนไม่หลับ น้ำหนักลดลงไปถึง ๑๘ กิโลกรัม
บ่อยครั้งที่น้ำตาของลูกไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว เพราะ
ลูกสงสารเขา และรู้สึกร้าวรานใจทุกครั้งเมื่อได้ยิน
เขาตัดพ้อเสมอ ๆ ว่า “หนูเป็นอย่างนี้ให้หนูตาย
ไปซะเลยดีไหม..” หรือบางทีเขาจะพูดกับยายเขา
แต่หลวงพ่อคะ...อาการป่วยที่เรื้อรังของเรา บ่อย ๆ ว่า “ยายจ๊ะ...หมอนของหนูใบนี้มันนิ่มดี หนู
ทั้งสอง ทำให้เราเป็นทุกข์ก็จริง แต่ก็ยังไม่ทุกข์และ
ชอบ หากหนูตายไปแล้วเอาใส่โลงไปให้หนูด้วยนะจ๊ะ"
ทรมานใจเหลือเกินค่ะ เป็นคำพูดที่สร้างความรวด
ร้าวเป็นที่สุดสำหรับผู้เป็นแม่ที่รักลูกยิ่งชีวิต ตอนนี้
เขาอายุได้ 6 ขวบแล้วค่ะ แต่ก็ยังไม่เห็นความหวัง
อันใดเลยที่จะทำให้เขาหาย
ทรมานเท่ากับอาการป่วยอย่างไม่คาดคิดที่กำลังเกิด ซึ่งคำพูดทำนองนี้ของลูกสาว ทำให้ลูกมีชีวิตอยู่อย่าง
ขึ้นกับลูกฝาแฝดคนเล็ก คือ ตั้งแต่ลูกให้กำเนิดลูก
แฝดมา แฝดหญิงคนเล็กป่วยสะเงาะสะแงะมาตลอด
คือเป็นโรคไตอักเสบเรื้อรังมาตั้งแต่อายุได้เพียง
เดือน พออายุได้ ๒ ขวบ ก็ชักตาค้างเนื่องจากไข้ขึ้น
สูงอีก และเมื่ออายุได้ 5 ขวบกว่า ๆ ก็มีอาการ
นําหนักตัวลดฮวบฮาบถึง กิโลกรัม ปัสสาวะถี่
๗
มาก ๆ
อ่อนเพลีย หิวกระหาย กระวนกระวาย กิน
อะไรไม่ได้ พอกินเข้าไปก็อาเจียนออกหมด จนตอน
ทุกวันนี้ลูกคิดมากและเป็นกังวลใจว่า หรือ
เป็นเพราะวจีกรรม ที่ลูกเคยพูดไว้ก่อนที่ลูกสาวคนนี้
จะล้มป่วยเพียง ๕ วัน ในตอนนั้นลูกยังไม่เข้าใจวัด
ลูกดูรูปภาพงานสลายร่างคุณยายอาจารย์ แล้วเห็น