ข้อความต้นฉบับในหน้า
" หลักการของการทำสมาธิมีอย่างเดียว คือ การน้อมใจที่ชอบเที่ยว ชอบคิด
ให้กลับมาติดอยู่ที่ศูนย์กลางกาย ให้หยุดนิ่งอยู่ที่นั่น ไม่ให้เตลิดเปิดเปิงไปที่ไหน
วิธีหลัก ๆ มีแค่ ๓ - ๕ วิธีเท่านั้น นอกนั้นอีก ๓๐ กว่าวิธี เป็นวิธีเสริมเพื่อปรับให้เหมาะกับ
ๆ
จริตของคนเท่านั้น และวิธีหลัก ๆ จะไปฝึกสำนักไหนก็ได้ ที่มีครูบาอาจารย์ดูแลอย่างจริงจัง
วิธีที่ท่านนำมาสอนก็เป็นวิธีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งนั้น ไม่ได้คิดเอาเอง ในเมื่อเป็นวิธีของ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วอาจารย์ที่สอนก็มีประสบการณ์ในการสอนมานาน เราก็เข้าไปหาท่าน
ไปตั้งใจฝึกกับท่านให้เต็มที่ก่อน
หากว่าเราทำเต็มที่แล้วแต่ยังไม่ค่อยก้าวหน้าเท่าที่ควร จะลองเปลี่ยนไปสำนักอื่นบ้างก็ได้
ที่เปลี่ยนไม่ได้หมายความว่าอาจารย์ไม่ดี เพียงแต่ว่าจริตอัธยาศัยของเราคงไม่ตรงกับวิธีนั้น แต่ก่อน
จะตัดสินว่าควรเปลี่ยนหรือไม่ควรเปลี่ยน ต้องทุ่มตัวเข้าไปฝึกเสียก่อน ถ้าเราเป็นคนเหยาะแหยะ
เดี๋ยวก็ต้องเปลี่ยนไปหมดทุกสำนัก แล้วก็ยังเอาดีไม่ได้
โดยย่อ ๆ ให้จับหลักการให้ได้ว่า หลักการของการทำสมาธิมีอย่างเดียว คือ การน้อมใจที่
ชอบเที่ยว ชอบคิด ให้กลับมาติดอยู่ที่ศูนย์กลางกาย ให้หยุดนิ่งอยู่ที่นั่น ไม่ให้เตลิดเปิดเปิงไปที่ไหน
ส่วนวิธีการถ้าไม่ได้ผิดไปจากคัมภีร์ในพระพุทธศาสนา ก็ฝึกไปเถอะ แล้วค่อย ๆ ปรับเอา เดี๋ยว
ก็ได้ และถ้าจะให้ปลอดภัยสักหน่อย จะฝึกวิธีไหนก็ไปหาพระอาจารย์ที่ท่านชำนาญวิธีนั้น ๆ
เดี๋ยวท่านก็มีคำแนะนำที่พอเหมาะพอสมให้เราเอง และด้วยความชำนาญของท่าน ท่านจะพบเอง
ว่าเราเหมาะหรือไม่เหมาะกับวิธีที่ท่านถนัด ถ้าไม่เหมาะ เดี๋ยวท่านก็ส่งต่อไปสำนักอื่นที่ท่านเห็น
ว่าน่าจะเหมาะกว่า เราก็ไปตามที่ท่านแนะนำ
ยิ่งไปกว่านั้น ต้องเตือนตัวเองเสมอว่า ไม่ว่าจะไปทดลองฝึกที่ไหน ขอให้ตั้งใจฝึกจริง ๆ
อย่าไปทำเป็นเล่น ให้นึกถึงคำพูดที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเอาไว้เมื่อวันจะตรัสรู้ให้ดี คือ หลัง
จากที่พระองค์ทรงฝึกมาอย่างเต็มที่ 5 ปีเต็ม ๆ ผ่านสำนักต่าง ๆ มามากมาย ทรงมั่นใจว่าได้
ทดลองและมีประสบการณ์มาพอแล้ว เหลืออย่างเดียวคือการเอาจริงเท่านั้น พระองค์ทรงตั้งใจจริง
พอประทับลงไปบนรัตนบัลลังก์ก็ทรงอธิษฐานเลยว่า แม้เลือดเนื้อในร่างกายจะแห้งเหือดหายไป
เหลือแต่หนัง เอ็น กระดูกก็ตามที หากยังไม่บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ จะไม่ลุกขึ้น จะประทับ
อยู่อย่างนี้ จะตายก็ให้ตายไปเถอะ
เราก็มีสิทธิ์เปลี่ยนวิธีเหมือนกัน แต่ว่าก่อนจะเปลี่ยนให้ฝึกให้สุดความสามารถ เมื่อได้
หลักการเรียบร้อยแล้ว ต่อแต่นี้ไปให้ฝึกจริง ๆ จัง ๆ คงไม่ต้องถึงขนาดให้เนื้อเลือดแห้งเหือด
หายไป จริงจังของเราในที่นี้ คือ อย่างน้อยตื่นเช้าขึ้นมาขอสักชั่วโมงหนึ่ง ก่อนนอนขออีกสักชั่วโมง
หนึ่ง ในระหว่างวันที่ต้องทำมาหากิน ก็ประคองใจไว้ที่ศูนย์กลางกายให้ดี ให้รู้ตัวว่า ตอนนี้ใจหนี
ไปเที่ยวแล้ว ก็ดึงกลับมาใหม่ รู้ตัวว่าไปอีกแล้ว ก็ดึงกลับมาใหม่อีก สู้กันอย่างนี้ ทำไปตามสมควร
แต่เช้ากับกลางคืนอย่าให้พลาด ทำอย่างนี้อย่าให้เว้นแต่ละวัน เดี๋ยวก็เห็นหน้าเห็นหลังเอง