ข้อความต้นฉบับในหน้า
ๆ
เห็นธรรมในธรรม หรือพูดง่าย ๆ ว่า ท่านเห็นกายต่าง ๆ ซ้อนกันอยู่ภายใน อย่างที่
ไม่เคยรู้เห็นมาก่อน และที่สำคัญได้เข้าถึงพระธรรมกาย ซึ่งเป็นกายตรัสรู้ธรรมของ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นกายที่ประกอบไปด้วยลักษณะมหาบุรุษครบถ้วนทุกประการ
สวยงามมาก เกตุดอกบัวตูม โดยผ่านเส้นทางสายกลางภายใน ด้วยการนำใจมาหยุด
นิ่ง จนกระทั่งกายกะเทาะร่อนหลุดถอดออกเป็นชั้น ๆ เหมือนเราลอกเปลือกหัวหอม
ออกเป็นชั้น ๆ อย่างนั้น เข้าไปเห็นกายในกายซ้อน ๆ กันอยู่ ท่านก็ถอดกายได้เป็น
ชั้น ๆ กระทั่งเข้าถึงธรรมกาย
แล้วหลังจากนั้นท่านก็เป็นพยานแห่งการตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ได้ศึกษาค้นคว้าเรื่อยมาทั้งภาคปริยัติและภาคปฏิบัติ เพื่อให้สอดคล้องกันว่า ในภาค
ปริยัติ หรือภาคทฤษฎีที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ว่า ธรรมกาย คือ พระตถาคตเจ้า
พระตถาคตเจ้า คือ ธรรมกาย ส่วนกายหยาบนั้นเป็นกายมหาบุรุษ ส่วนกายที่ทำให้เป็น
พระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น คือ ธรรมกายที่อยู่ภายในองค์ท่าน
กายมหาบุรุษเหมือนแค่เป็นเปลือก เป็นตัวถัง เป็นทางผ่านให้เข้าถึงธรรมกาย
กายมหาบุรุษยังไม่ใช่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะได้มาตั้งแต่วันแรกประสูติแล้ว
เจริญวัยขึ้นมาเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ องค์รัชทายาทแห่งกรุงกบิลพัสดุ์ แต่สิ่งที่ทำให้
ท่านดับกิเลสอาสวะทั้งหลายทั้งปวงได้ก็ขจัดด้วยธรรมกาย ด้วยวิธีการทำใจหยุดนิ่ง
ตั้งแต่เบื้องต้นจนกระทั่งเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า หยุดนิ่งอย่างเดียวที่
ศูนย์กลางกายฐานที่ ๓ ตรงนี้ ไม่ได้ทำอะไรที่นอกเหนือจากนี้ แล้วพระองค์ก็เทศนา
สั่งสอนอย่างนี้เรื่อยมา จนกระทั่งดับขันธปรินิพพาน
มีถ้อยคำบางประโยคที่พระพุทธองค์ทรงสอนไว้ เช่น คำว่า “สมณะหยุดแล้ว”
ที่ตรัสแก่องคุลิมาล “หยุด” ในที่นี้ ไม่เพียงแค่หยุดการทำบาปทั้งปวง แต่หมายถึง
ใจหยุดนิ่งแน่นอยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ กลางกายธรรมอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
หยุดอย่างเดียว คำ ๆ นี่ลึกซึ้งนัก
เมื่อกาลเวลาผ่านมา คำว่า “ธรรมกาย” ถูกแปลไปตามความเข้าใจของนักคิด
นักทฤษฎี ซึ่งมีมากมาย ทำให้ผู้มาภายหลังยากต่อการปฏิบัติที่จะเป็นพยานในการ
ตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ จนมีการบังเกิดขึ้นของพระเดชพระคุณหลวงปู่
ของเราเมื่อ ๑๒๖ ปี และ ๙๔ ปีที่ผ่านมาท่านก็ได้บรรลุธรรมกาย เป็นพยานแห่งการ
ตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หลังจากนั้นท่านก็เทศน์สอนโปรดผู้มีบุญที่
วัดบางปลาเป็นปฐมเริ่ม ให้ได้บรรลุธรรมกายตามท่านได้อย่างอัศจรรย์ทีเดียว คล้าย
กับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโปรดท่านปัญจวัคคีย์
ต่อมาท่านได้เป็นสมภารวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ และได้ศึกษาค้นคว้าเรื่อยไปด้วย
วิธีการหยุดนิ่งในกลางธรรมกายเข้าไปเรื่อย ๆ ศึกษาไปด้วย สอนไปด้วย จนกระทั่ง
ท่านได้ค้นพบเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิตที่ยิ่งกว่าที่ท่านเคยพบ คือเรื่องของพญามาร
ที่ปล่อยมาร ๕ ฝูง ตั้งแต่กิเลสมาร เทวบุตรมาร มัจจุมาร ขันธมาร และอภิสังขารมาร
มาปกครองสรรพสัตว์สรรพสิ่งทั้งหลายให้ตกเป็นบ่าวเป็นทาสของพญามารเรื่อยมา ตั้งแต่