ข้อความต้นฉบับในหน้า
พระมหาสันติ โชติทิโร (อายุ ๙๙ ปี)
วัดราษฎร์ประชุมชานาราม
จังหวัดกาญจนบุรี
"วันนี้ รู้สึกดีใจที่คณะสงฆ์และสาธุชนวัดพระธรรมกายินดีมินต์พระสงฆ์ที่สอบได้ในปีนี้ทั้ง ๕๖ รูป มามุ่งมั่นสาธกะ
"ภาษาบาลีอว่าเป็นต้นภิกษา เป็นแบบอย่างที่คณะสงฆ์เรามาได้ศึกษและรักษามาม่า
ส่วนผู้ที่อยากจะศึกษาจนไม่มีโอกาส ก็ให้กำลังใจ ให้การสนับสนุน เช่นในวันนี้เป็นต้น ก็ถือเป็นกำลังใจอย่างหนึ่ง การศึกษาบาลีไม่ยากไม่ง่าย ถ้ามีใจก็เบื้องต้นคือพระพุทธศาสนา และเห็นว่าบาลีเป็นภาษา
ที่สืบสานพระพุทธศาสนา เมื่อเรามีใจอย่างนี้ก็ไม่ยากเกินไป ภาษาบาลีอือเป็นภาษาที่รักษาไว้ซึ่งพระพุทธ
จะใกล้เคียงถูกต้องมากที่สุด ตราบใดที่ยังมีการรักษาภาษาบาลี ก็จะเป็นอุปกรณ์ในการสั่งนอน
สืบสานพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนต่อไปจากพระพุทธสาตรเดิม
"สำหรับวุ้นน้องที่ศึกษาเพราะบาลี ก็จะมีอินทรีกัน ๙ เบื้องต้นต้องมีใจรักพระพุทธศาสนา ส่วน
ข้ออ่่น ๆ ก็ลงไม่อยากไป ถ้าเรามีฉันทะ มีความรัก มีความพอใจในภาษาบาลี ไม่มีอะไรที่เกินความ
สามารถของเรา"
พระมหาวิรัตน์ สุมนคโล (อายุ ๒๖ ปี)
วัดเทพศิลา กรุงเทพมหานคร
"การศึกษาบาลีเป็นหลักในการศึกษาของพระพุทธศาสนาอยู่แล้ว เพราะเป็นภาษาที่รองรับคำสอน
ของพระสัมมาสัมพุเจ้า เทคนิคในการเรียนของความบรรอรมพื้น ๆ คือ ฉันทะ พุทโธ ๆ คือ
ชอบเรียน ใฝ่รู้ใฝ่ศึกษา เฉพาะวิชาน้อยอยากรู้หยีเกิน เวลาพระเทคนั้นแปลว่ายังไง พอมาบนเว
มาสวดมนต์ ยิ่งอยากรู้ยิ่งอยากเห็น
"ตอนที่น้องปฏิมากร เราเป็นพระมหา จูงความหมายบิไร ทำให้ทำได้เร็ว อดทนตอนปฏิมากรณ์
ตอนอายุ ๓๐ กว่า ใช้เวลาน้อยกว่าจำได้หมด เพราะเรารู้ภาษาบาลี รู้ความหมายของคำ ตั้วแปลว่า
อย่างนี้ ต่อไปปต่อไปอย่างนี้ อาศัยบารมีเท่า ๆ มีประโยชน์มาก"