ข้อความต้นฉบับในหน้า
นอกจากมีความรู้แล้ว ยังต้องมีความสามารถที่จะเอาความรู้ไปทำความดีด้วย
รู้ แต่กิน ยอมเอาชีวิตเป็นเดิมพันทำชั่ว
รู้ไหมว่า การไปปล้น ไปโจร ไปผิดลูกเมีย ถ้าถูกเขาจับได้ แต่ตายกับตายเท่านั้น
รู้ แต่ทำ ก็เพราะฉะนั้นไม่ว่าศีลมีข้อ เวลา ทำผิดศีลก็พร้อมจะทำอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ทั้งนั้น
ตรงนี้เองที่ทำให้เราต้องกลับมาทบทวนว่า ถ้าเราเรียนให้มีความรู้ โดยที่ไม่ฝึกให้สร้างกำลังใจในการทำความดี พอถึงเวลามีทำความดีเป็นงานในบ้าน ในโรงเรียน ในชุมชน ก็จะทำแบบไม่เต็มที่ เวลาไปเจออุปสรรค ฯลฯ ก็พร้อมจะเลิกทำความดีคล้าย ๆ แล้วเอาความรู้ที่ได้เรียนมาจากครูอาจารย์ หันกลับไปทำความชั่วอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพัน
เมื่อการศึกษาสร้างคนให้มีความรู้แต่พร้อมจะเอาชีวิตเป็นเดิมพันนั้น ความดีมักที่จะเป็นของของผู้เรียนเอง ครอบครัวของเขา สังคมที่เขาอยู่ด้วย ก็จะต้องเดือดร้อนใไปป์บผลจากการทำความชั่วของเขาด้วย นี่คือความน่ากลัวของการให้ความรู้อย่างเดียว แต่ไม่ให้กำลังใจในการทำความดี
ด้วยเหตุนี้ เราจึงต้องรับฝึกผู้เรียน ให้กำลังใจที่จะทำความดี ก่อนที่ความชั่วจะเข้าครองจิตใจ ฉะนะทั้งหมดกำลังใจทำความดี นี่จึงเป็นเรื่องใหญ่ของการศึกษา
ความรู้เท่าที่มีอยู่ ไม่ว่าจะมากหรือน้อยเท่าใดก็ตาม ถ้าครบได้เท่าไรไม่ได้เอาไปทำความดี จะศึกษาหรือเรียนรู้ไปทำไม เพราะฉะนั้นนอกจากความรู้แล้ว ยังต้องมีความสามารถที่จะเอาความรู้ไปทำความดีด้วย
ในการทำงานต่าง ๆ มีเรื่องที่ต้องรับความจริงอย่างหนึ่งว่า แม้เราจะมีความตั้งใจทำงานให้ออกมาดี แต่พอทำจริง ๆ แล้ว จะยังไม่สมบูรณ์ในความดีย่อมเกิดขึ้นมาได้ ทั้งที่ตั้งใจเต็มที่แล้ว คาดหวังผลไว้ร้อยส่วน แต่ผลคือจะออกมาได้แค่ 80 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น 80 เปอร์เซ็นต์นั้น เป็นส่วนที่เราทำ ถูกเป็นความชอบที่เราถือดีรับ แต่ก็ 20 เปอร์เซ็นต์ ที่มีผิดพลาดนั้น เราก็ต้องยอมรับด้วย ยอมรับในส่วนที่เป็นความผิด เพื่อจะได้นำมาแก้ไขให้ผลดีในคราวต่อ ๆ ไป
ถ้าปล่อยผลที่เราทำผิดพลาดทิ้งไว้ แล้วจะมาแก้ไข ถ้าปล่อยผลผิดเอาไว้โดยไม่ดำเนินการใด ๆ ต่อให้ ก็จะกลายเป็นว่า เราคุดคั่งขยะไว้ในสังคม นอกจากไม่เกิดประโยชน์แล้ว มิหนำซ้ำอาจเกิดโทษกับสังคมอีกด้วย
ดังนั้น ความหมายของการศึกษาในทางปฏิบัติ จึงหมายถึง การปลูกฝังและพัฒนาให้ผู้เรียนมี