ข้อความต้นฉบับในหน้า
มัววาดตั้งเดิม คุณพ่อและคุณแม่มีบุตร 2 คน คือ กระผมและน้องชาย ท่านพาลูกทั้งสองเข้าวัด ปฏนทำบุญทุกอาทิตย์ และตักบาตรทุกวัน ตอนนั้นกระผมซึ่งอายุประมาณ 7-8 ปี จึงได้มีโอกาสฝึกนั่งสมาธิจากครูอาจารย์ (แม่น) ที่วัดปากน้ำอยู่หลายปี และครั้งหนึ่งกระผมนั่งสมาธิและบอกคุณพ่อว่ามีดูดดำ 4 ซึ่ง เมื่อเอาคำก็พบว่า คุณพ่อ ติดเชื้อปอดจริงและรักษาได้ทันเวลา
ต่อมาคุณพ่อพบว่าเป็นมะเร็งที่โพรงจมูก และรักษาโดยการฉายแสง ซึ่งทำให้คุณพ่อได้รับความทรมานมาก ถึงขั้นว่าราวรอไม้ แต่กระนั้นคุณพ่อไม่เคยร้องไห้คร่ำครวญแม่แต่เลย ท่านมีความอดทนมาก คุณพ่อมักจะรับความเจ็บปวด แต่ดูไม่น้อยได้ผลนัก ช่วงเวลาสุดท้ายก่อนที่จะละโลก 3-4 วัน คุณพ่อไม่รู้สึกติดต่อเนื่องจากต้องให้อมรฟื้นนแบบบการปวดจากมะเร็ง แต่ก็ยังปวดมาก
น้ำสาว (คนที่ 5) พากระผมไปนั่งสมาธิ (ตั้งเครื่องพระพุทธเจ้า) และคุณพ่อก็เป็นมุกกันคุณแม่ได้พาพวกนั้น จากนั้นก็กลับไป 6 วัน ก่อนจะจากไป คุณพ่อก็แก่วรวมหเดียวอายุเพียง 39 ปี ฉะนั้นกระผมและน้องชายอายุได้เพียง 10 ปี และ 7 ปี
หลังจากนั้น คุณแม่ก็ต้องเลี้ยงลูก 2 คน ตามลำพังในช่วงหลังจากที่คุณพ่อเสียนี้เอง คุณแม่และลูก ๆ ก็ไม่ได้ข้าวปากน้กอทต่งเช่นเดิม แต่ก็มาทำบุญบำรอตรงสมาเสมอ และเข้าวัดตามสำคัญทางศาสนาต่อเนื่อง ฯ
คุณแม่พาพวกเราไปกราบไหว้ครูของคุณพ่อในวันครบรอบวันเสียชีวิตทุกปี และสอนให้ทึกส่วนบุคคลให้คุณพ่อทุกครั้งที่ทำบุญ และพาเราไปข้าวที่บู๊มูลนิธิวัดปากน้ำเป็นประจำ
ในปี พ.ศ. ๒๕๐๐ คุณแม่ตรวจพบเนื้องอกที่ไตข้างหนึ่ง และไอ้ข้างมีลักษณะเล็กลง (ผ่อ) น้ำสาวคนเดิมที่เคยพากระผมไปนั่งสมาธิทำบุญไปนั่งสมาธิที่วัดปากน้ำ แนะนำผู้เผยแผ่องคง่ายว่าช่วยรักษาคุณแม่ได้ เขาให้คล่องฮ้รอไม้บาง เหนื่อยครับ (หน้าตาและกลิ่นเหมือนไม่อยากมาก) และต้องไปเข้าโสต เข้าพิธีบทธานของเขา แต่ก็ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงนะครับ
ช่วงนั้นกระผมและครอบครัวทำพระพุทธ-ศาสนาไปเลย ไม่ได้ไหว้พระ อีกทั้งยังถูกห้ามนั่งสมาธิด้วย ได้ทำบุญตามอาสนาบ้าง แต่ไม่บ่อยเท่าที่เดิมครับ ท่านบุญธนบูรณ์สมุติปล้ำครั้งเหมือนอยู่ในบุญบูรณะเขตเลยครับ สุดท้ายการรักษาก็ไม่ใกล้ จึงเลิกติดต่อไป เหตุที่น่าสนใจนั่นคือว่า
น้ำสาวและครอบครัวป่วยกันทั้งบ้าน รักษากับแพทย์แผนปัจจุบันไม่มีขึ้น จึงไปหาหมอด่าง ๆ หลายหมอ จนมาพบแผ่ต่างศาสนานี้ เขาแนะนำให้เปลี่ยนศาสนา เขาให้น้ำมาหอมมากเหมือนกัน และให้ดื่นเบียร์ ซึ่งเขาอาว่าเป็นน้ำสาวและครอบครัวดื่มเบียร์กันแทบทุกมื้อ จนกระผมคิดว่า พวกเขาดื่มเบียร์แล้วล่ะครับ
จนลากับปี พ.ศ. ๒๕๔๙ ปัญหาเนื้องอกที่ไตของคุณแม่รุนแรงมากขึ้น คุณแม่ได้รับการรักษาตัวในโรงพยาบาลแบบเดือนเดือน ฉันกระทั้งเดือนตุลาคมคุณแม่ต้องอยู่โรงพยาบาลตลอด เพราะอาการกำเริบมาก ทานอาหารไม่ได้เลย และไม่ได้สนเนื่องจากของเสียในร่างกายคั่ง คุณแม่ฝ่าตัดเจาะคอเพื่อดูดเสมหะและต่อสายยางเพื่อให้อาหารเหลว และล้างใต้อาทิตย์ละ 3 วัน ในช่วงเวลานั้นเอง กระผมและน้องชายได้ถูกผีฝ้ายคุณแม่เตือนสติให้กลับเข้า วัดทำนุบำรุงแม่อีกครั้งหนึ่ง เขาอุาบวัดพระรามและได้ไปกราบหลวงพ่อเพื่อขอให้