ข้อความต้นฉบับในหน้า
คํานํ ํคือ คํมภีร์พระััมภาษ์มกายาทิ เป็น คำมภีร์ศาสนาพุทธที่แต่งขึ้นด้วยอักษรไทย จัดอยู่ในประเภทปกิณณกะ พบอยู่ในชุดพระไตรปิฎกฉบับสมบูรณ์ที่รฃ้างโดยพระมหากษัตริย์ไทย คือพระไตรปิฎกฉบับรองทรงโดยล้นเกล้ารัชกาลที่ ๙ ใช้งารประํณพระองคืเป็นหลักฐานนี้ และ ฉบับเทพมุขม ที่สร้างขึ้นในช่วง พ.ศ. ๒๓๒๗-๒๓๔๗ โดยล้นเกล้ารัชกาลที่ ๓ และพระราชทานไว้ประจำพระเทวดาพานา เป็นหลักฐานนี้ ฯ มีข้อคว ามสำคัญว่า
อุณาโลมแห่งมุขาม ณ พุทธองค์ตรัสวรจิต ยุ สุตฺตมงฺคลาคีบาน สุพฑฺฑมงฺติกํ สมถภายม ค๎ พุทธ นมติโลกนายกํ อิมํ สมฤกาม พุทธลานี โยคาวจรlปฏเทน ติกฺขาเนน สุพฺพจนฺทภา ปฐนฺเตน ปุนปุนํ อนุสฺริฏพุทธา
คํมภีร์พระัมภิรมนกายาทิ ฉบับเทพชุมมุม ร.๓ วัดพระเชตุพนฯ
แปลเป็นไทยได้ว่า "เพราะเหตุที่พระพุทธเจ้าทรงมีพระอัยยะทุส่วนสูงสุด ดั่งประกอบด้วยสัทพจญญาณ ที่รู้กันว่าพระธรรมกายไม่มีใครจะเป็นผู้นำโลกได้เท่าทรงรุงเรืองเทวตาและมนุษย์เหล่านั้น พระโยคาวจรผู้มีญาณแก่กล้า เมื่อปรารถนาจะเป็นพระสัมพุทธเจ้า พระองค์ก็ยังคงสิ่งพุทธลักษณะคือ พระธรรมกายบ่อยๆ สิ่งนี้"
แสดงว่าพระพุทธเจ้าทรงร่องเรือนิ้วและเทพทั้งปวงเพราะพระธรรมกาย พระธรรมกายนี้เองสามารถนำไปสู่พระภาวะได้" ลำดับถัดมาพบ คำภีร์ดูรัฏฐรัขขา เป็นหลักฐานขึ้นที่ ๑๐ ในคัมภีร์ดูรัฏฐรัขขานี้ได้พบคำว่า ธรรมภายในคาถาที่ ๑๑ ซึ่งเป็นข้อความสรุป การปฏิบัติพุทธานุสติ มีเนื้อความว่า ทิสสมฺโม ในปีสุด
รูปาโย จินติโต อย สาธารณญาณตุเม มมุทยา กถา ๓ กถี ๓
แปลได้ว่า "แม้พระปฐมกายของพระองค์ที่ปรากฏอยู่ก็ยังเป็นเรื่องจีนโดย จะกล่าวไปถึงพระธรรมกาย (ของพระองค์) ซึ่งมั่งคั่งไปด้วยญาณ คือ ๑. ซึ่งให้เห็นอย่างชัดเจนว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีธรรมกายซึ่งแยกออกจากอุปายอย่างชัดเจน ๒. ลักษณะที่สำคัญของธรรมกายของพระพุทธองค์ คือ มั่งคั่งไปด้วยญาณ และลักษณะของญาณเป็นความรู้เฉพาะที่ไม่ทั่วไป ซึ่งเป็นเรื่องจีนโดย คำמภีร์ดูรัฏฐรัขขานี้พบที่ประเทศไทยทั้งหมด ๓ แห่ง คือ ๑. คำมภีร์ดูรัฏฐรัขขา ฉบับอักษรขอม ไทย ใบลาน เก็บรักษาไว้ที่สมุดแห่งชาติ ๒. คัมภีร์ตรารักษา ฉบับอธรรม ลานนา ใบลาน เก็บรักษาไว้ที่สมุดแห่งชาติ ๓. คณะทีมงานนักวิจัยของสถาบันวิจัยนาซาติติวมัย DIR ได้ลงพื้นที่สำรวจในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และได้พบคัมภีร์ดูรัฏฐรัขขาด้วยอักษรขอม ที่โอไล ประจำวัดกัลยาณ์ ๑ วัดสารเสน ศราภรณ์มหาร