การทำบุญและความเลื่อมใส วารสารอยู่ในบุญประจำเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2559 หน้า 88
หน้าที่ 88 / 121

สรุปเนื้อหา

เรื่องราวนี้สอนให้เรารู้ว่าการทำบุญนั้นไม่ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่บริจาค แต่เป็นเรื่องของเจตนาที่บริสุทธิ์และความเลื่อมใสใจจริง การให้ทานตามที่กล่าวในพระไตรปิฎก่าควรมี 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ วัตถุบุญสิทธิ์, เจตนาบุญสิทธิ์ และบุคลิกของผู้ให้และผู้รับ โดยการให้แม้ในปริมาณน้อย หากเกิดจากจิตที่บริสุทธิ์และมีความเลื่อมใส ก็สามารถได้บุญมากมายเหมือนกัน

หัวข้อประเด็น

-การทำบุญ
-เจตนาการให้ทาน
-พระไตรปิฎก
-วัตถุบุญสิทธิ์
-ความเลื่อมใส

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ถ้าเรามีน้อย ให้นทน้อย จะได้บุญมาก เหมือนคนที่ให้นมาก ๆ ไหม? “เมื่อจิตเลื่อมใสแล้ว ทำกุศลทานหาใช่เป็นของน้อยไม่” มีเรื่องจากพระไตรปิฎกเรื่องหนึ่งบันทึกไว้ว่า มีคนจะไปบูชาเจดีย์แต่ไม่มีทรัพย์ จึงเก็บดอกบวบมบ ๔ ดอกจากข้างทาง ไปบูชา อานิสงส์ยิ่งส่งให้ไปเกิดบนสวรรค์เลย ขอให้มีความเลื่อมใสเถิด แต่ถ้าใจมีความเลื่อมใส่เท่ากันจะเป็นอย่างไร ก็ต้องดูเงื่อนไขที่จะทำให้บุญมากพระพุทธเจ้าบอกว่าจะต้องประกอบ ๓ อย่างที่จะทำให้บุญมากดังนี้ ๑. วัตถุบุญสิทธิ์ คือ ของที่ฉันได้มา ด้วยความบริสุทธิ์ ดอกบวบข้างทางก็ได้มาด้วยความบริสุทธิ์ ถ้าทำบุญเยอะแต่ไปโกงเขามาบัญก็ย่อย ทรัพย์ที่ทำบุญน้อยแต่ได้มาด้วยความสุจริตได้บุญเยอะกว่า ๒. เจตนาบุญสิทธิ์ คือ เพื่อจัดความทะนงตนและก่อนให้ทานก็เลื่อมใส ระหว่างให้ก็ตั้งจิตใจ หลังให้แล้วก็ปลื้มปลิ้มใจ ยิ่งเลื่อมใสมากบุญยิ่งเยอะ ทำบุญบาเท่าเดียวกันเนื้อทั้งตัวมีอยู่แค่บาทเดียวนี้แหละเลื่อมใสจริง ๆ บุญมหาศาล แต่ถ้าใครทำบุญเงินล้านอย่างเสียไม่ได้ ทำเพื่อเอาหน้า ได้บุญเดียวกัน ๓. บุคลิบบุญสิทธิ์ ถ้าผู้รับเป็นพระภิกษุที่อยู่ในศีลในธรรม ยิ่งคุณธรรมสูงเท่าไรก็ยิ่งเร่งมาก และตัวเราเองในฐานะผู้ให้ทาน ยิ่งอยู่ในศีลในธรรมมากเท่าไร บุญก็ยิ่งเยอะ แต่ถ้าเป็นบุคคลเดียวกัน มีความศรัทธาเท่ากัน วัตถุบุญสิทธิ์เหมือนกัน อย่างนี้เราคิดง่าย ๆ ได้ว่า ถ้าทำมากย่อมได้มากไปตามส่วน แต่ไม่ตัวชัดเจน จะว่าดาวจากตัวเงินอย่างเดียวไม่ได้ ต้องดูความเลื่อมใส ความตั้งใจ ดูทั้งหมดประกอบด้วย อยู่ในบุญ กรกฎาคม ๒๕๕๙
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More