ข้อความต้นฉบับในหน้า
อานิสงส์การให้ทาน เพื่อจัดความตระหนี่
“สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงต้องตาย เพราะชีวิตมีความตายเป็นที่สุด สัตว์ทั้งหลายล้มตายตามธรรม เข้าถึงผลแห่งบุญและบาป คือ ผู้ทำบุญก่อไปสู่สุข ส่วนผู้ทำบุญก่อไปสู่ทุกข์ เพราะฉะนั้นบุคคลพึงทำกุศลกรรมอันจะนำไปสู่สุขติ ในสัมปรายภพ บุญย่อมเป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งหลายในโลก” (อัยการสงคราม)
การจะใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าโดยไม่ให้พลาดพลังไปทำบาปอุตส่าห์ ให้ใจเข็ม อยู่กับความดี ให้ใจบริสุทธิ์ผ่องใสในบุญ ล้วน ๆ เป็นสิ่งที่ทำได้ไม่ยาก เพราะใจของชาวโลกไม่ค่อยคุ้นกับความดี ส่วนใหญ่จะไหลไปตามกระแสกลส เหมือนน้ำไหลลงจากที่สูงสู่ที่ต่ำ การจะเอาขันกลสในตัวได้มันต้องอาศัยกำลังใจ จึงจะสามารถถลกธารและกลส หากเราให้ที่สูงส่งแต่เป็นมนุษย์ ยามจะหนุนใจให้สูงขึ้นด้วยรูปกายใหม่ เป็นกายทิพย์ที่สวยงามละเอียด ประณีตตามคุณภาพของใจ ความสะอาดบริสุทธิ์ของใจส่งผลให้ใจมีภูมิคุ้มกันและร่างกายอยู่ในความสุขและปกติสุข
บริสุทธิ์ของใจจะส่งผลให้มีภูมิคุ้มกันละเอียดอ่อนรับไว้รองรับ
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเข้าใจและรู้เรื่องเหล่านี้ เพราะจะต้องมีมาทฤษฎีเป็นพื้นฐาน ได้โอกาสบำบัดบำรุงจิตนับเป็นพื้นฐานที่เหมาะสมต่อการสร้างบารมี มีครูอาจารย์ที่เป็นยอดกัลยานมิตรคอยแนะนำเส้นทางที่ถูกต้อง จึงจะเข้าใจเรื่องบุญ บุญ คุณ โทษ อย่างถ่องแท้ เมื่อเข้าใจก็จะเกิดศรัทธาอยากทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา ซึ่งเป็นทางมาแห่งบุญที่เป็นต้นทางไปสวรรคร์ การทำบุญนั้นหากทำกับเน้นบารมี เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะส่งผลยิ่งใหญ่เกินกว่าความคาด ดังรวบรายต่อไปนี้
ในสมัยพุทธกาล ชาวบ้านคนหนึ่งในกรุงสาวัดมีโอกาสฟังธรรมจากพระสํมาสัมพุทธเจ้าหลายครั้ง จึงเลิกนับถือศาสนาซึ่งเป็นความเชื่อเดิม แล้วนับถือพระพุทธศาสนา เขาเป็นอุปาสกผู้ราม ศิล ยอดพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งตลอดชีวิตวันหนึ่ง หลังจากอุทาสิกไปอาบน้ำเมื่ได้วัดเสร็จแล้ว ระหว่างเดินทางกลับบ้าน เขาได้พบพระผู้มีพระภาคเจ้ากำลังเสด็จเดินบันฑบ เขารู้สึกในบุญสวรค์ดี จริงจังเข้าไปถวายบังคม พลางกราบกลาวว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ วันนี้ทรงรับนิสงค์ใครแล้วหรือยัง พระเจ้าข้า” เมื่อได้รับคำตอบว่ายังไม่มีใครนิสงค์ เขาบรรบาบุตรต่อไปว่า “ขอแต่พระองค์ศิริจารณ์”