ข้อความต้นฉบับในหน้า
เมื่อทรงมองเห็นภัยในวัฏสงสารจึงเสด็จออกจากถนนเพื่อแจวงทางพ้นทุกข์ ทรงบำเพ็ญขึ้นเพื่ออย่างแรงกล้าจนกระทั่งได้ตรัสรู้ได้ครองไม้ศรีมหาโพธิ์ ในวันตรัสรู้ขึ้นพระองค์มีพระทยัตงมั่นใจหยุดนิ่งได้อย่างสมบูรณ์ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ของพระองค์ ในยามต้นตรงเข้าสู่กายธรรมพระองค์เองและผู้อื่นได้ ในยามที่ ๗ ทรงเข้าสู่กายธรรมพระองค์เองและผู้อื่นได้ ในยามที่ ๗ ทรงเข้ากายธรรมพระองค์ใน บรรลุจุดปัญญา
รู้แจ้ง เห็นแจ้ง การเกิดดับและการเวียนว่ายตายเกิดของสรรพสัตว์ทั้งหลาย และในยามสุดท้าย ทรงบรรลุอาสวกขยญาณ สามารถกำจัดสิ่งสอละให้สิ้นเชื่อไม่เหลือเศษ ตรัสรู้เป็นพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า
ต่อมา พระพุทธองค์ทรงเผยแผ่พระพุทธศาสนามาตลอด ๔๕ พระชัน ทรงบำเพ็ญพุทธกิจโปรดสรรพสัตว์ ทรงแสดงธรรมพร้อมทั้งอรรถธรรมและพุทธานะ งดงามทั้งเบื้องต้นท่ามกลาง และเบื้องปลาย จบจนจบวาระสุดท้ายทรงจะสังวรและกล่าวปริจฉิมโอวาทไว้ว่า
"สังเวชทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา เฉกทั้งหลายยังประโยชน์ตนและผู้อื่นให้พร้อมด้วยความไม่ประมาทเกิด" จากนั้นทรงเข้าสมาบัติและเสด็จดับขันธปรินิพพาน เข้าสู่อายดนินิพพาน ภายในภพประจุทีที่หนึ่ง ตรัสรู้ที่หนึ่ง และปรินิพพานอีกที่หนึ่งแต่ในแง่การปฏิบัติภายใน ประดับ ตรัสรู้ และปรินิพพานที่เดียวกันคือในศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ จึงเป็นตำแหน่งที่สำคัญที่สุดของโลก เป็นทางไปของพระอริยเจ้า พระอรหันต์ เป็นทางบรรลุ ผล นิพพาน ของทุกคนบนโลกที่จะต้องเอาใจมาหยุดนิ่งอยู่ตรงนี้ เพื่อให้ได้บรรลุธรรม บรรลุจุดประสงค์ของชีวิตที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ มาพบพระพุทธศาสนา และมีดวงตาเห็นธรรม
ดังนั้น วันนี้จงเป็นวันที่มีความหมายต่อตัวเราและช าโลกเป็นอย่างยิ่ง เพราะวันนี้เกิดขึ้น เรายังมีโอกาสได้ยืนพระธรรมคำสอนของพระบรมศาสดาผู้มสัมมาสัมพุทธเจ้า และได้รู้เรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต ได้รู้จังหวะรดับทุกข์ รวมทั้งได้ลงมือปฏิบัติให้พ้นจากทุกข์ เข้าถึงธรรม เพราะฉะนั้นวันนี้ลูก ๆ ทุกคนก็จะต้องตั้งใจปฏิบัติธรรม หยุดใจของเราให้สนิท ให้เข้าถึงธรรมภายในให้ได้ ถ้าทำได้อย่างนี้จะได้ชื่อว่าสำเร็จในวันวิสาขบูชา ซึ่งจะมีอานิสงส์สำคัญ เพราะการบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ว่าพระองค์ยังมีพระชนม์อยู่หรือไม่ก็ตาม หากมีจิตเลื่อมใสเสมอกันย่อมมีอานิสงส์มากมายสูงที่จะนับประมาณได้