ข้อความต้นฉบับในหน้า
จังหวัดที่2 ใจหน้าที่ “จำ”
จังหวัดที่ 1 ใจหน้าที่ “เห็น” คือ รับรองมันเอาไว้แปลเปลี่ยนเป็นภาพนี้ จังหวัดที่ 2 ก็จะเก็บภาพทั้งหมดโดยบันทึกเอาไว้ในเช่นเดียวกับที่ลงถ่ายวีดีโอเป็นภาพและเสียงไว้ในแผ่นฟิล์ม หรือเหมือนเทปเรดคอร์ดที่บันทึกเสียง หรือเหมือนภาพยนตร์ที่บันทึกภาพและเสียงเอาไว้ในแผ่นฟิล์ม ฉะนั้น
แต่ใจนี้ยังมีคุณลักษณะพิเศษกว่าลักษณะของเครื่องในนั้น เพราะไม่เพียงแต่บันทึกภาพเสียงเท่านั้นยังสามารถบันทึก รส และสัมผัสได้ด้วย การบันทึกเก็บข้อมูลไว้ในตัวนี้ คือการนำเน้นเอง ภาษาวรรณให้อ่านว่า “สัญญา” เช่นกัน ถาดในตัวของใครบริสุทธิ์ก็สามารถได้ แม่ยำ ตรวจตามความเป็นจริงของใครบริสุทธิ์ยื่น ควรจดประสเทภาวะพล ลูกจังหวัด 3 ใจหน้าที่ “คิด”
เมื่อใดว่างเป็น ก็ได้บถมอยู่ในใจ เมื่อมีข้อมูลแล้วนำมาวิจารณ์จากสิ่งนี้ สิ่งนี้ดี สิ่งนี้ผิด สิ่งนี้ถูก สิ่งนี้ควร สิ่งนี้ไม่ควร เวลาดึงบุคคลคิดกลับไปจากฝาย บุคคลคิดไปจากฝายซ้า เหตุใดจึงไม่เหมือนกัน คำตอบก็คือ แต่ละคนบูรณ์สุขไม่เหมือนกัน จิตใจไม่เหมือนกัน การดึงการบรรจะเรียกว่า “สัญญา”
คำว่าก “สัญญา” มีความหมายเป็น 2 นัยคือ
(1) สัญญา หมายถึง จากกายของคุณเองได้
(2) สัญญา หมายถึง “การคิด” ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ของภาวะหน้าที่ของใจ (ขึ้นเป็นความหมายของสัญญา ในที่นี่) ก็ได้
จังหวัดที่ 4 ใจหน้าที่ “รู้”
พูดเติม ก็อดคิดในใจของใครเลยว่า อย่างนี้ดีจริง อย่างนี้ผิดจริง อย่างนี้ถูกจริง คือ เห็นหรือรู้ว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ภาษาธรรมใช้คำว่า “วิญญาณ”
ดังนั้นคำว่า “วิญญาณ” จึงมีความหมายเป็น 2 อย่างคือ
(1) วิญญาณ คือ ธาตุในตัวคน ซึ่งเป็น 1 ใน 6 ของธาตุประกอบเป็นตัวคนเรา เราเรียกว่า วิญญาณธาตุด
(2) วิญญาณ คือ ความรู้ที่เกิดขึ้นในใจของเรา เป็น 1 ใน 4 ของการทำหน้าที่ของใจ เราเรียกว่า วิญญาณนันท์