บทวิเคราะห์เรื่องธฤดูมในพระพุทธศาสนา : หน้า 47/49

ธฤดูมาประกาศหลัง ตัวว่าเป็นสิ่งที่ดี ที่ใครก็ถือว่า 3 อย่างน้อยในวัตถุ ยิ่งมากเท่าไรยิ่งดีเท่านั้น ตกลงเราจะเห็นว่า เรื่องธฤดูมเป็นเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่งในพระพุทธศาสนา แต่ถ้าเสียดาย ที่ว่าสามารถจะได้นำมาพูดกันไม่ค่อยคนสนใจมากนักอย่างจริงจัง ตามที่ปรบยามานี้จะเห็นว่า เรื่องธฤดูมนี้ถูกเอาวิชาการหลายด้านความรอบด้านนี้ นั่นคือแต่รัชกาล ชีวิตยา อุณหภูมิศาสตร์ การกาศทศาสตร์ อุณหภูมิยา วิชาแพทย์ เบิกษาธรรมศาสตร์ เกษตรศาสตร์ พุทธศาสตร์ นิเทศศาสตร์ สังคมศาสตร์ แสดงผลศาสตร์ และกะท้าทั้งวิชาการครองเรือหาได้มากมีวิทยาศาสตร์ความว่างกว้างขวาง ลสิ่งนี้ จริง ๆ แล้วสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันและการประกอบสัมอาชีพได้อย่างกว้างขวางอีกทียังอีกได้ตลอดความคิด สร้างสรรในแนวใหญ่ ๆ ก่อนเกิดคิดสร้างงานและอาชีพใหม่ ๆ ด้วยไม่ค่อยลองกล้ายึดแน่นแบบอื่น ซึ่งจะเป็นการสร้างทรัพยากรเพื่อการบริโภคและอุปโภคแก่มนุษย์อย่างมาก ยอมเป็นการอนุญาตให้ทั่วโล พนวกกวารตอยากแสนแน่น ไอ้าชีพ ตัดปรากฏอยู่ทั่วโลกในปัจจุบัน เพราะฉะนั้นแต่เป็นไปใน ก็ ใครใครจะมีสิ่งอะไร ขอที่เผอะแพรยามาไม่เปลี่ยนแบบตามแบบใคร หัดพึงพิจารณา หัตถกิจความคิดออกมาแล้วก็ได้ดี ด้วยหัวข้อดีที่สุด คือเป็นใครถ้าเป็นตามแบบก็ตามแนว ๆ ป่านนี้ จะมีดาวน์มีดาขนาดใหญ่ ให้สรุนบ้างน้อย เราพยายามคิดแต่งใหม่ ๆ โดยไม่ต้องถามใคร แต่มีหลักสำคัญที่จะต้องยึดถือความคิดและการกระทำต่าง ๆ จะต้องอยู่บนฐานของความดี ถูกต้องตามของคลองธรรม ทำอย่างนี้โลจึงจะเจริญ แม้ว่าตอนนี้เป็นการเทคนิคการสอน อาศรมพี่ยามนี้จะคิดด้านเทคนิคด้านอวิทย์ ที่จะทำให้เราร้องขึ้น เพื่อให้ฟังสบายและเข้าใจเวียนขึ้น พยายามจะผิดคับรับตำราพฤกษศาสตร์ให้อ่านกัน จะได้เข้าใจธรรมกันมากขึ้น อย่าไปหยุดหย่อนทีแม่รติดเวลาสมงก็พยายามจุดขึ้นให้ใครถึงดงุรมพรมและก็อย่าไปหยุดอย่ที่ อย่าเอาแต่คงดงุรมพรมวาดเหมือนอย่างชมดวงจรอร่อยทั้งนั้นไม่เอา ให้อายุจิตเข้าไปกลางดงุรมพรม จุดเข้าไปลึก ๆ เดี๋ยวมีแรงดึงดึงให้เราเข้าสะดวกเข้าไปกลางดงุรมพรมเอง พวกกดดันไปในดงุมรมพรมแล้วจะคราส่งขึ้นซึ่งธาตุในตัวจะถูกดงุรมพรมมรรคของ เหมือนอย่างกองน้ำ แต่การกรองน้ำใช้ว่า หรามหรือก็ใช้ชีหักให้ดูดใช้ทรายหยาบละเอียด และกำหนงัเรียงกันเป็นชั้น ๆ แตกระบองงอไม่ใช่อย่างนั้น พอเห็นดวงปรุมรมคดีไว้ดวงปรุมรมครั้งเดียวก็พอเป็นครั้งคราว ก็ประเดี๋ยวเท่าไรก็เข้าไปในดวงปรุมรมมรรคเอง พวกกดดันไปในดงุรมพรมแล้วจะคราส่งขึ้นซึ่งธาตุในตัวจะถูกดงุรมพรมมรรคของ เหมือนอย่างกองน้ำ แต่การกรองน้ำใช้ว่า หรามหรือก็ใช้ชีหักให้ดูดใช้ทรายหยาบละเอียด และกำหนงัเรียงกันเป็นชั้น ๆ แตกระบองงอไม่ใช่อย่างนั้น พอเห็นดวงปรุมรมคดีไว้ดวงปรุมรมครั้งเดียวก็พอเป็นครั้งคราว ก็ประเดี๋ยวเท่าไรก็เข้าไปในดวงปรุมรมมรรคเอง พวกกดดันไปในดงุรมพรมแล้วจะคราส่งขึ้นซึ่งธาตุในตัวจะถูกดงุรมพรมมรรคของ เหมือนอย่างกองน้ำ แต่การกรองน้ำใช้ว่า หรามหรือก็ใช้ชีหักให้ดูดใช้ทรายหยาบละเอียด และกำหนงัเรียงกันเป็นชั้น ๆ แตกระบองงอไม่ใช่อย่างนั้น พอเห็นดวงปรุมรมคดีไว้ดวงปรุมรมครั้งเดียวก็พอเป็นครั้งคราว ก็ประเดี๋ยวเท่าไรก็เข้าไปในดวงปรุมรมมรรคเอง พวกกดดันไปในดงุรมพรมแล้วจะคราส่งขึ้นซึ่งธาตุในตัวจะถูกดงุรมพรมมรรคของ เหมือนอย่างกองน้ำ แต่การกรองน้ำใช้ว่า หรามหรือก็ใช้ชีหักให้ดูดใช้ทรายหยาบละเอียด และกำหนงัเรียงกันเป็นชั้น ๆ แตกระบองงอไม่ใช่อย่างนั้น พอเห็นดวงปรุมรมคดีไว้ดวงปรุมรมครั้งเดียวก็พอเป็นครั้งคราว ก็ประเดี๋ยวเท่าไรก็เข้าไปในดวงปรุมรมมรรคเอง พวกกดดันไปในดงุรมพรมแล้วจะคราส่งขึ้นซึ่งธาตุในตัวจะถูกดงุรมพรมมรรคของ เหมือนอย่างกองน้ำ แต่การกรองน้ำใช้ว่า หรามหรือก็ใช้ชีหักให้ดูดใช้ทรายหยาบละเอียด และกำหนงัเรียงกันเป็นชั้น ๆ แตกระบองงอไม่ใช่อย่างนั้น พอเห็นดวงปรุมรมคดีไว้ดวงปรุมรมครั้งเดียวก็พอเป็นครั้งคราว ก็ประเดี๋ยวเท่าไรก็เข้าไปในดวงปรุมรมมรรคเอง พวกกดดันไปในดงุรมพรมแล้วจะคราส่งขึ้นซึ่งธาตุในตัวจะถูกดงุรมพรมมรรคของ เหมือนอย่างกองน้ำ แต่การกรองน้ำใช้ว่า หรามหรือก็ใช้ชีหักให้ดูดใช้ทรายหยาบละเอียด และกำหนงัเรียงกันเป็นชั้น ๆ แตกระบองงอไม่ใช่อย่างนั้น พอเห็นดวงปรุมรมคดีไว้ดวงปรุมรมครั้งเดียวก็พอเป็นครั้งคราว ก็ประเดี๋ยวเท่าไรก็เข้าไปในดวงปรุมรมมรรคเอง พวกกดดันไปในดงุรมพรมแล้วจะคราส่งขึ้นซึ่งธาตุในตัวจะถูกดงุรมพรมมรรคของ เหมือนอย่างกองน้ำ แต่การกรองน้ำใช้ว่า หรามหรือก็ใช้ชีหักให้ดูดใช้ทรายหยาบละเอียด และกำหนงัเรียงกันเป็นชั้น ๆ แตกระบองงอไม่ใช่อย่างนั้น