ข้อความต้นฉบับในหน้า
จังหวัดที่ 3 คำหน้าที่ "คิด"
ความมีศักดิ์ของตนมีสิทธิผลต่อความคิดของคนเรา คนเราแต่ละคนมักจะมีความคิดไม่เหมือนกัน เมื่อตองเห็นสิ่งใดสิ่งหนึ่งพร้อม ๆ กัน บางคนคิดต่าง บางคนคิดเหมือนกันและแต่คิดเป็นกลาง ๆ ตัวอย่างเช่น มีคน 4-5 คน เดินผ่าน ๆ กัน เจ้าพ่อครูพอเห็นตนก็เห็นใกล้ มองหาหน่อม ๆ จะถามตัวเองว่ามีพิร้น อีกคนหนึ่งเป็นประธานชวนชมกัน พอเจอกันก็ ก็ตื่น ๆ คิดน่ารักว่าอะไรที่ไม่สมควร ฆ่าเขาให้ทำอย่าง
อีกคนหนึ่งเป็นช่างกล้า แน่ใจไม่กลัวก็ดี ปอดตรงตระลึง "โอ้ย! แหงนมองนี้น่าเอาไปหลอกทำตอก สลานกระบอง สถานะว่า" มองไปอย่างนั้น อีกคนหนึ่งก็แกล้ง ทำได้ ๆ ไม่นอกดอกสนใจใจ จะไปทํอุคคลสารก็ไม่ชอบ ไปเดินต่อ ๆ มอง ๆ ที่หลังเล็ก ๆ ขนาดเล็กคุณยกลูกสาวกันด้วย ชนิด ดำน้ำไม่ดง ดำนองดรื่นมองไม่ออกว่าเขาจะเอาไปทำอย่างไร จะก็จะตอบว่า "โอ้ย คนล่ะคลังเหมเหมียเรื่อย ถ้าไปทำอะไรต่อ" เป็นยังไงแต่คนของของสิ่งต่าง ๆ เห็นไม่ตรงกัน คิดไปคนอะไรอย่านบอกคนคิดดี บางคนคิดดีว่าทำไมอย่างนั้น ก็ยืนอยู่กับ ๆ ในวิจารณ์แต่ละคนว่าบุคคลที่ไหน
ถ้่ายไม่บริสุทธิ์ ก็คืบว่า ๆ ถ้าจริงบริสุทธิ์ขึ้นมาบ้างแล้ว ก็จะคิดว่า ๆ ไม่หัวใคร แก้ไขได้แต่ความดีอะไร แต่ถ้าจิตบริสุทธิ์มาก็ คิดจะไปคาวดูดี เรือถวบูรณ์ยิ่ง ๆ พอแบนนิ่งดังนั้น ก็จะมองดูว่ามันก็ชี้ คนอื่นก็แปลก ๆ แต่ละคนสุดจะได้ คิดคนอื่นก็แปลก ๆ คิดกันในธรรมะสนามว่า "เออ! ไม่ลำบังน่าตา ปล่อน่านตามกันมา มันก็ทำใจ" นะึเม็ยนบอาราเป็นธรรมดานั่นเอง?
ถ้าภายในตัวของเราจะอาจขึ้นมาเท่าไร สงสารคือความคิดของตนก็แจ่มขึ้นในบทที่ในทางที่ถูกที่ควรมากขึ้นไปนั่น
จังหวัดที่ 4 ทำหน้าที่ "รู้"
เมื่อพูดในแง่นี้ 5 คำคือ วิญาญนึกถึง ซึ่งหมายถึงความสามารถในการรับรู้ของความในแต่ละคน คือคนไหนฤดีในตัววิญญาณมาก อามจะผ่องใส จิตใจจะลงขึ้น เมื่อบำ นนวด จะดีไหวดีจะเลือกแต่ของดี ๆ เพราะเห็นแต่ของดี ๆ เลยจำได้แต่ของดี ๆ เช่นจำนวนลดของได้ แค่ใจโกรธใครขึ้นมาดิคือใครลงต่ำ ก็ไม่ออกว่าจะอย่างไรจะอะไร เพราะจำคำไม่ได้อย่างแรงอึ้งว่า "แหม มันน่าหยิกให้นิ้วเขียว"