การชำระและแปลพระไตรปิฎกฉบับสันสกฤต วารสารอยู่ในบุญประจำเดือน กันยายน พ.ศ.2558 หน้า 36
หน้าที่ 36 / 110

สรุปเนื้อหา

บทความนี้นำเสนอการทำงานของศาสตราจารย์เจนส์ บรวาวน ผู้เชี่ยวชาญด้านสันสกฤตในการชำระและแปลพระไตรปิฎกฉบับเก่าแก่ที่มีอายุ 3,000-6,000 ปีของสถาบันอนุรักษ์เคอเจน เขามีส่วนสำคัญในการศึกษารายละเอียดของพระธรรมที่เกี่ยวข้องกับอารยธรรมและศาสนาพุทธ โดยเฉพาะศูนย์กลางทางพุทธศาสนาในหุบเขาแกนธาราจ (Gandhara) ซึ่งมีการค้นพบคัมภีร์และศาสนวัตถุสำคัญมากมายก่อนที่ศาสนาอิสลามจะเข้ามาในภูมิภาคนี้ นอกจากนี้ยังมีการกล่าวถึงความสำคัญของการอนุรักษ์เอกสารโบราณและการศึกษาวิจัยร่วมกับพิพิธภัณฑ์เอกสารโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลก

หัวข้อประเด็น

-การชำระพระไตรปิฎก
-ศาสตราจารย์เจนส์ บรวาวน
-อารยธรรมตะวันออก
-หุบเขากันธาราจ
-เอกสารโบราณและการอนุรักษ์

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ภาพขาวดำ ผู้เขียนได้รับมอบหนังสือผลงานการชำระและแปลพระไตรปิฎกฉบับภาษาสันสกฤต ซึ่งมีอายุเก่าแก่ ๓,๐๐๐-๖,๐๐๐ ปี ของสถาบันอนุรักษ์เคอเจน Dr. เจนส์ โบว์ (เสลเชียว) นักวิชาการที่เชี่ยวชาญด้านสันสกฤต ซึ่งเรียนมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ระดับปริญญาตรี โท และเอก อีกทั้งยังเป็นชาววิญญาณมานุษยชาญด้านดินติกด้วย ซึ่งเป็นบุคลากรหลักในการชำระและแปลพระไตรปิฎกพร้อมทำงานวิจัยอย่างใกล้ชิดกับพระวัชระ เซนเซอร์ (กลาง) ซึ่งการศึกษาระดับปริญญาโทตามมหาวิทยาลัยอ็อดโล สตริวผลงานวิจัยของเขาทำให้สถานบันฯ ความรู้ความเข้าใจในพระธรรมคำ "ธรรมาภร" จากที่นี่ สำหรับ ศาสตราจารย์เจนส์ บรวาวน นั้นท่านเป็นผู้เริ่มและจุดประกายไหว้การชาวพุทธได้รับรู้ว่า ที่มามีมัยก่อนถูกพวกตาละชนระเบิดทำลายพระพุทธรูปองค์ใหม่นั้น ภายในหนุนนี้มีพระคัมภีร์เก่าแก่ อายุ ๑,๓๐๐ ปี ถึง ๒,๐๐๐ กว่าจะมีสภาพที่ยังสมบูรณ์ และที่ชำรุดต้องอาศัยน้อมรักษ์นักษ์เพื่อการซ่อมแซม แล้วยังมีกันตอนการดูแลความสะอาดให้มุ่งมั่นก่อนนามถ่ายลำเนาตั้งระบดับไว้ เอาลงกที่ถ่ายสำเนานำมาให้เป็นวิชาการผู้รับอ่านก็ปลอนและตรวจซ้ำ ระบุบริวรมและถอดความต่อไป หุบเขามีมั่นนั้น ใดอดีตดินแดนแถบนี้เรียกว่า แต่ว่านักธรณีหรือคันธธาราจ (Gandhara) เป็นเมืองตั้งอยู่บนเส้นทางสายไหม (Silk Road) จุดทางแยกสู่จีน อินเดีย ตะวันออกกลาง และยุโรป เป็นบริเวณที่อายธรรมจากตะวันออกเดินทางมาพบกับอายธรรมจากตะวันตก กล่าวคือ อายธรรมจากอินเดียดินทางมาพบกับอายธรรมจากอิร่าน กรีซ และจีน มีการค้นพบสถานทางศาสนาพุทธและศาสนาอื่นเป็นจำนวนมากกว่า ๑,๐๐๐ แห่ง เป็นหนึ่งในจุดศูนย์กลางทางพุทธศาสนาในบริเวณนั้นมาก่อนที่จะมีศาสนาอิสลามเข้ามาในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๑๓ ศาสนวัตถุสำคัญที่สุดในบริเวณนั้นคือ พระพุทธปฏิมาองค์ใหญ่จำนวน ๓ องค์ ซึ่งแกะสลักอยู่บนผ้าหินสูงขัณฑ์กว่า ๒,๔๐๐ เมตร และมีอายุว่า ๕,๔๐๐ ปี ซึ่งสถานที่นี้มีอารามมากกว่า ๑๐ แห่ง มีพระสงฆ์หลายพันรูป ทั้งฝ่ายโลกุตตรายาน (โลกลุตตรา) ซึ่งเป็นนิกายย่อยของมหายันต์ และภิกษุฝ่ายมหายาน ดังนั้นบริเวณนี้จึงค้นพบในนูนเบาบางมายิ่งมีทั้งคัมภีร์รองฝ่ายเถรวาทและฝ่ายมหายาน คือว่าเป็นหนึ่งในแหล่งค้นพบพระคัมภีร์พระไตรปิฎกเก่าที่สุดในโลก ซึ่งพบในถํ้าต่าง ๆ แห่งหุบเขาบมัยยัน ประเทซต์พากอันสิถานนั้น ศาสตราจารย์เจนส์ บรวาวน ได้ไปเข้าร่วมประชุมทางวิชาการในเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๙ ณ มหาวิทยาลัยไลเดน ประเทศเนเธอร์แลนด์ ปรากฏว่าผู้เข้าร่วมประชุมคนหนึ่งได้เล่าให้ฟังว่า แสง ฟีโอกี พ่อค้าของเก่าแห่งกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้ขายส่วนเอกสารโบราณของพระศาสนา จำนวน ๑๐๘ ขึ้นให้แก่คุณมาร์คิน สเคลเยน ชาวเนเธอร์เวย์ ผู้ดำเนินการและเจ้าของสถานบันอนุรักษ์เคอเดน (Conservation Institute of Schoyen) ประเทศเนเธอร์เวย์ ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์เอกสารโบราณที่ใหญ่ที่สุดของโลกก็ว่าได้ (เก็บรวบรวมไว้ของทุกศาสนา) พอทราบว่าเจ้าของเป็นชาวนอร์เวย์ ท่านจึงเกิดความสนใจอย่างแรงกล้า จึงได้ไปพบเพื่อขออนุญาตให้นำเอกสารโบราณดังกล่าวมาศึกษาวิจัย ซึ่งทางเจ้าของคือคุณมาร์คิน สเคลเยน ก็อนุญาตและยินดีให้งามือ
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More