พระสัมมา-สัมพุทธเจ้า : ​ค้นหาหนังสือธรรมะ หน้า 72 / 170

แนวคิด 1. พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงค้นพบว่ากฎแห่งกรรม เป็นกฎธรรมชาติที่ไม่มีผู้ใดฝ่าฝืนได้ เป็นสิ่ง ที่มนุษย์ทุกคนต้องปฏิบัติหากไม่ปฏิบัติตามกฎแห่งกรรมก็จะเกิดทุกข์โทษชีวิตก็ไม่ได้รับความสุข ดังนั้นพระสั

เนื้อหาเกี่ยวกับกฎแห่งกรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนว่าเป็นกฎธรรมชาติที่ทุกคนต้องปฏิบัติ และสิ่งที่ทำให้มนุษย์แตกต่างกันคือกรรมในอดีต โดยกล่าวถึงความไม่เข้าใจเกี่ยวกับกฎแห่งกรรมที่มักเกิดขึ้น เช่น ก

ในสมัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรายังทรงพระชนมชีพอยู่นั้น ณ เมืองสาวัตถี อันเป็นเมือง หลวงของแคว้นโกศล มีพราหมณ์คนหนึ่งชื่อ โตเทยยพราหมณ์ เป็นผู้ร่ำรวย มีทรัพย์มากถึง 87 โกฏิ จัด อยู่ในระดับเศรษฐี พรา

เรื่องราวนี้เกี่ยวกับโตเทยยพราหมณ์ซึ่งร่ำรวยแต่ไม่ทำบุญและการสอนบุตรของเขาให้หวงแหนทรัพย์ เมื่อเขาตายจึงกลับชาติมาเกิดเป็นลูกสุนัข และมีเรื่องราวเกี่ยวกับสุภมาณพที่เลี้ยงดูลูกสุนัขนี้ เมื่อพระพุทธเจ้า

ในหัวข้อนี้สามารถสรุปได้ว่า กรรมที่สัตวโลกทั้งหลายได้กระทำแล้วดังที่พระพุทธองค์ทรงยกขึ้น แสดงตามปัญหาที่สุภมาณพถามนั้น ผู้กระทำย่อมได้รับผลแห่งการกระทำนั้นแน่นอนและลักษณะกรรมที่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรง

บทความนี้สรุปว่า กรรมที่สัตวโลกกระทำย่อมส่งผลต่อชีวิต และมีความซับซ้อนในการให้ผลที่แตกต่างกันตามการกระทำ โดยการสั่งสมกุศลกรรมมีส่วนในการเปลี่ยนแปลงลักษณะทางกายภาพและจิตใจ ในขณะที่คำสอนของพระสัมมาสัมพุ

ยืนยันว่า กรรมชั่วไม่มี ผลของกรรมชั่วไม่มี พราหมณ์จำพวกที่ 3 เห็นบุคคลจำพวกที่ 3 ในบุคคล 4 จำพวกที่กล่าวมาแล้วข้างต้น แล้วกล่าว ยืนยันว่า กรรมดีมี ผลของกรรมดีมี พราหมณ์จำพวกที่ 4 เห็นบุคคลจำพวกที่ 4 ใ

ข้อความนี้วิเคราะห์ปรัชญาเกี่ยวกับกรรมดีและกรรมชั่วในมุมมองของพระพุทธศาสนา โดยชี้ให้เห็นการจำแนกประเภทของบุคคลตามผลของกรรมที่ได้กระทำ ทั้งในกรณีกรรมดีที่นำไปสู่ความสุขและกรรมชั่วที่นำไปสู่นรก ผลลัพธ์ข

เพราะทำแล้วก็ไม่รู้สึกว่าผิดศีลผิดธรรม ไม่กลัวบาป คนจะสนใจวัตถุมากกว่าจิตใจ ใช้ชีวิตตามอำเภอใจ จะไม่เกิดประโยชน์ต่อการมีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ นักศึกษาคงเคยศึกษาในเรื่องการเกิดศาสนาต่างๆ มาบ้างแล้ว เราจะ

บทความนี้นำเสนอความสำคัญของอปัณณกสูตรในพระพุทธศาสนา ซึ่งช่วยแนะนำวิธีการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องสำหรับบุคคลที่ไม่มีศาสนา หรือไม่มีความเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม โดยยกตัวอย่างหลักการที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอ

บทที่ 3 กรรมหมวดที่ 1 กรรมให้ผลตามหน้าที่ มนุษย์ทุกคนที่เกิดมาบนโลกใบนี้ล้วนไม่รู้ว่าเกิดมาทำไมพร้อมกับความสงสัยในฐานะทางสังคมและ เศรษฐกิจ เนื่องจากแต่ละคนที่เกิดมามีความแตกต่างกัน บางคนเกิดมารวย บางค

บทที่ 3 กล่าวถึงกรรมที่ให้ผลตามหน้าที่ ซึ่งมีความสำคัญในการเข้าใจชีวิตและพฤติกรรมของมนุษย์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ศึกษาและค้นพบวิธีการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง เพื่อเสริมสร้างกุศลกรรมและนำไปสู่ความสุข โดยเ

แห่งความเป็นข้าของผู้อื่น เพราะทรัพย์จะต้องหมดไปในวันหนึ่ง เขาเพียรตอกย้ำพร่ำสอนลูกหลานและหมู่ญาติเช่นนี้อยู่เนืองๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้เสียชีวิตลง ก่อนที่จะเสียชีวิต จิตของเขาถูกความตระหนี่ครอบงำน

เรื่องราวเล่าถึงอานันทเศรษฐีผู้ตระหนี่ที่ตายแล้วต้องเกิดใหม่ในครรภ์ของหญิงขอทาน ทำให้เขาต้องเผชิญกับความยากจนและทุกข์ยากในชาติปัจจุบัน อดีตของเขาส่งผลกระทบไปยังชีวิตใหม่ของเขา จนกระทั่งพบพระพุทธเจ้าแล

บ้านเรือนหนีไปยังเมืองสาวัตถีอันเป็นเมืองหลวงของแคว้นโกศล และได้พากันกราบทูลเรื่องราวแต่ พระราชาให้ทรงทราบ พระราชาซึ่งทรงทราบเรื่องราวอยู่แล้ว ครั้นได้ฟังคำร้องทุกข์ของชาวเมือง จึงทรงรับสั่งให้เหล่า อ

เรื่องราวแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้งของโจรองคุลิมาลจากการเป็นโจรผู้ที่โจมตีผู้คนแต่ได้รับการช่วยเหลือจากพระพุทธเจ้า เมื่อพระองค์เสด็จไปพบกับโจรนี้และที่เกิดการสนทนา ซึ่งนำไปสู่การบรรพชาในภายหลัง

ที่ยังไม่รู้อะไรเลย ให้ถวายทานแก่พระสงฆ์ หรือเวลาที่พระผ่านมา ก็สอนให้พนมมือไหว้ด้วยความเคารพ ทั้งๆ ที่ใจของลูกนั้นยังไม่รู้อะไรเลย แต่ว่ากุศลกรรมที่ได้ทำลงไปนั้น ย่อมให้ผล แม้จะทำแบบไม่รู้เรื่องก็ตาม

บทความนี้อธิบายถึงกตัตตากรรมที่มีทั้งฝ่ายกุศลกรรมและอกุศลกรรม โดยเฉพาะความเข้าใจในความหมายของกตัตตากรรมที่ไม่มีเจตนา ซึ่งอาจส่งผลได้ในภายหลังแม้จะไม่รู้ตัว นอกจากนี้ยกตัวอย่างจากพระไตรปิฎกที่แสดงให้เห

1) ปริปักกทิฏฐธรรมเวทนียกรรม กรรมที่บันดาลให้ได้รับผลในปัจจุบันชาตินี้ทันที เพราะ กรรมประเภทนี้มีกำลังในการให้ผลมาก จึงสามารถที่จะบันดาลให้บุคคลที่กระทำอกุศลกรรมหรือกุศล กรรมได้รับผลภายใน 7 วันอย่างแน

ปริปักกทิฏฐธรรมเวทนียกรรมเป็นกรรมที่มีอำนาจในการให้ผลทันทีในปัจจุบัน มีสองฝ่ายคือกรรมชั่วและกรรมดี กรรมชั่วทำให้เกิดความทุกข์ภายใน 7 วัน ส่วนกรรมดีนำมาซึ่งความสุขเร็วขึ้น มีตัวอย่างจากพระเจ้าสุปปพุทธะ

บทที่ 6 ทรรศนะเรื่องการล้างบาปในพระพุทธศาสนา ศาสนาในโลกมีอยู่มากมายหลายศาสนา หากนับรวมศาสนาเล็กศาสนาน้อยด้วย แต่หากนับเฉพาะ ศาสนาหลักที่มีความสำคัญต่อการยึดเหนี่ยวจิตใจของมนุษย์ และมีจำนวนศาสนิกผู้นับ

บทที่ 6 เน้นการล้างบาปในพระพุทธศาสนาและการเปรียบเทียบกับศาสนาอื่น เช่น คริสต์ และพราหมณ์ โดยจะเสนอแนวคิดเกี่ยวกับบาปและกรรม ที่ส่งผลต่อการกระทำและความสุขในชีวิต นักศึกษาได้เรียนรู้กรอบคำสอนต่าง ๆ เพื่

ในศาสนาอื่นอย่างไร และสามารถตอบคำถามเรื่องการล้างบาปในพระพุทธศาสนาแก่ผู้ที่สงสัยให้เข้าใจจน หายสงสัยได้ นอกจากนี้จะได้นำความรู้ที่ได้นี้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างถูกต้อง 6.2.1 ความหมายของคำว่าล้างบา

คำว่า 'ล้างบาป' ในพระพุทธศาสนาไม่ได้มีการกล่าวโดยตรง แต่มีแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับการทำให้บริสุทธิ์ทั้งกาย วาจา ใจ เพื่อหลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าใช้คำนี้เพื่อสอนคนต่างศาสนา โดยสามารถเข้าส

6.2.2 การกำเนิดบาปในพระพุทธศาสนา จากการที่นักศึกษาได้เรียนรู้ทรรศนะการล้างบาปในศาสนาต่างๆ ที่ผ่านมา จะเห็นว่าในเรื่องการ กำเนิดบาปในแต่ละศาสนามีความเชื่อที่ต่างกัน ศาสนาที่นับถือพระเจ้าอย่างศาสนาคริสต

บทความนี้กล่าวถึงการกำเนิดบาปในพระพุทธศาสนา โดยเน้นว่าบาปเกิดจากกิเลสที่อยู่ภายในจิตใจของมนุษย์ เช่น โลภะ โทสะ และโมหะ ไม่ใช่เรื่องที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งต่างจากความเชื่อในศาสนาอื่นๆ เช่น คริสต์

วิธีการทําความสะอาดของพระอริยะ หมายถึง ทำความสะอาดทางกาย คือไม่ฆ่าสัตว์ไม่ลักทรัพย์ ไม่ประพฤติผิดในกาม ทำความสะอาดทางวาจา คือการละจากการพูดเท็จ ละจากการพูดส่อเสียด ละจากการพูดคำหยาบ ละจากการพูดเพ้อเจ้

การทำความสะอาดของพระอริยะหมายถึงการทำความสะอาดทางกาย วาจา และใจซึ่งเป็นหลักการสำคัญในพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าทรงอธิบายว่าความบริสุทธิ์เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล จึงไม่มีการล้างบาปที่สามารถทำได้โดยบุคคลอื่น

การล้างบาปได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้นว่า พระพุทธองค์มิได้ทรงใช้คำว่า ล้างบาปโดยตรง หากแต่คำสอนของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีความหมายในลักษณะของการล้างบาปอยู่แล้ว และจุดหมายปลายทางของการ ล้างบาปโดยนัยของพระพุทธศ

การล้างบาปในพระพุทธศาสนาไม่ได้ใช้คำว่า 'ล้างบาป' โดยตรง แต่มีความหมายในการกำจัดกิเลสที่เป็นเหตุแห่งบาป การทำบุญละลายบาป การทำดีอย่างต่อเนื่องเป็นวิธีการสำคัญในการปรับเปลี่ยนผลกรรมให้ดีขึ้น แม้จะมีบาปเ

การตั้งเป้าหมายชีวิตเช่นนี้ เป็นการตั้งเป้าหมายชีวิตที่แคบ สั้น และเสี่ยงอันตราย เป็นความคิด ที่อยู่บนพื้นฐานของความประมาท ไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับชีวิตหลังความตาย เพราะในเวลาใกล้ตายจะ มีภาพเหตุการณ์แส

การตั้งเป้าหมายชีวิตที่แคบอาจทำให้เราเสี่ยงต่อการไม่มีความพร้อมสำหรับชีวิตหลังความตาย การสร้างบุญกุศลและละบาปเป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรละเลย เพื่อให้เราสามารถสร้างความดีและมีจิตใจที่ผ่องใสก่อนจากโลกนี้

บทที่ 8 บทสรุปสาระสำคัญกฎแห่งกรรมเชิงสัมพันธ์ 8.1 กฎแห่งกรรมกับหลักสัมมาทิฏฐิ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทีปแห่งโลกและจักรวาล ทรงบังเกิดขึ้นเพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่มวล หมู่สรรพสัตว์ เป็นนาถเอกของโลกแล

บทนี้อธิบายถึงกฎแห่งกรรมในเชิงสัมพันธ์และความสำคัญของสัมมาทิฏฐิในการสร้างกรรมดี โดยชี้ให้เห็นว่าการแบ่งปันและการช่วยเหลือสังคมมีผลตอบแทนที่ดีทั้งต่อตนเองและผู้อื่น การมีสัมมาทิฏฐิช่วยให้มนุษย์ห่างไกลจ

มัว เพราะถ้าเกิดการโต้ตอบกันและกันจะทำให้เกิดผูกเวรต่อกัน คือ เอาตัวเองเข้าไปผูกกับเรื่องร้ายๆ นั้น เมื่อเวียนว่ายตายเกิดมาบรรจบกันเวรที่ผูกไว้ก็ออกฤทธิ์ทำให้เกิดการอาฆาตพยาบาทสร้างกรรมชั่วกันต่อ ไปไม

เนื้อหานี้พูดถึงกฎแห่งกรรมและผลกระทบที่มีต่อชีวิตทั้งในปัจจุบันและในอนาคต การสร้างบุญกุศลยังส่งผลต่อการเกิดใหม่และความสุขหรือทุกข์ในชาติถัดไป รวมถึงการศึกษาหลักการโอปปาติกะ ส่วนนี้เน้นการให้ความรู้แก่

รอยบัณฑิตนักปราชญ์ก็สามารถพลิกผันชีวิตให้กลับมาดีได้ ดังที่กล่าวไว้เราทุกคนหมุนเวียนเปลี่ยนตาย เกิดมาแล้วทุกสถานภาพ จึงตั้งคำถามว่า ความไม่ประมาทในการดำรงชีวิตคืออะไร เป็นอย่างไร? ดังที่ทราบสิ่งที่ครอ

บทความนี้นำเสนอหลักธรรมที่เกี่ยวกับความไม่ประมาทในการดำรงชีวิต โดยชี้ให้เห็นว่า กิเลสต่างๆ เช่น ความโลภ ความโกรธ และความหลง ส่งผลกระทบต่อความสามารถและศักยภาพของมนุษย์ ทั้งยังเสนอวิธีการแก้ไขปัญหาด้วยก

โดยทั่วไปแล้วว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ทรงเป็น ศาสดาเอกของโลก ผู้เป็นพระบรมครูของมนุษย์และ เทวา สามารถฝึกได้แม้บุคคลที่ฝึกได้ยาก ทรงเป็นต้น แบบในการดำเนินชีวิตและการทำหน้าที่ครูได้อย่าง สมบูรณ์ ดังนั้

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นศาสดาเอกที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจและฝึกสอนบุคคลที่ยากแก่การฝึก ด้วยชีวิตที่เป็นแบบอย่างในการเป็นครูและการปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ เนื้อหานี้กล่าวถึงความสำคัญของการศึกษาวิธีก