การล้างบาปในพระพุทธศาสนา GL 203 กฎแห่งกรรม หน้า 143
หน้าที่ 143 / 214

สรุปเนื้อหา

การล้างบาปในพระพุทธศาสนาไม่ได้ใช้คำว่า 'ล้างบาป' โดยตรง แต่มีความหมายในการกำจัดกิเลสที่เป็นเหตุแห่งบาป การทำบุญละลายบาป การทำดีอย่างต่อเนื่องเป็นวิธีการสำคัญในการปรับเปลี่ยนผลกรรมให้ดีขึ้น แม้จะมีบาปเกิดขึ้น การเข้าใจถึงโทษของบาปและการปรับปรุงตนเองด้วยการทำความดีจะช่วยให้ชีวิตดำเนินไปในทางที่ดีขึ้น.

หัวข้อประเด็น

- การล้างบาปในพระพุทธศาสนา
- กฎแห่งกรรม
- การทำบุญละลายบาป
- การกำจัดกิเลส
- ความดีและความชั่ว

ข้อความต้นฉบับในหน้า

การล้างบาปได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้นว่า พระพุทธองค์มิได้ทรงใช้คำว่า ล้างบาปโดยตรง หากแต่คำสอนของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีความหมายในลักษณะของการล้างบาปอยู่แล้ว และจุดหมายปลายทางของการ ล้างบาปโดยนัยของพระพุทธศาสนาก็เพื่อกำจัดกิเลสอาสวะให้หมดสิ้นไปจากใจ 6.2.5 การทำบุญละลายบาป ก่อนที่จะศึกษาเรื่องการล้างบาปในหัวข้อต่อไป ในหัวข้อนี้อยากจะชี้ประเด็นสำคัญในเรื่องของ การทำบุญละลายบาป ซึ่งมีการกล่าวถึงกันมากในหนังสือหลายเล่ม ที่เกี่ยวกับเรื่องกฎแห่งกรรม เพราะ โดยทั่วไปแล้วจะเข้าใจว่า บาปที่เกิดจากการทำชั่ว มีผลเป็นวิบากแล้วนั้นไม่สามารถล้างได้ จึงเชื่อว่าบาป ล้างไม่ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะหมายถึงบาปในลักษณะที่เป็นผล แต่ในกรณีของวิชากฎแห่งกรรมนั้น มิได้หมายถึงบาปในลักษณะดังกล่าวนั้น แต่หมายถึงการกำจัดกิเลสตัวก่อให้เกิดบาปอันเป็นความหมายใน ลักษณะที่เป็นเหตุ ซึ่งนักศึกษาจะได้มีความเข้าใจที่ตรงกัน อย่างที่ทราบกันดีแล้วว่า แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะทรงสอนให้คนละชั่ว ทำดี ทำจิตให้ผ่องใส เพื่อการกำจัดกิเลสอาสวะให้หมดสิ้นไป แต่ในการดำเนินชีวิตจริงของบุคคลทั่วไปไม่ได้ทำความดีแต่เพียง อย่างเดียวได้ตลอด แต่มักจะทำความดีในความชั่วสลับกันไป ดังนั้นเวลากรรมส่งผล ก็จะส่งผลไม่ต่อเนื่อง จะส่งผลสลับปรับเปลี่ยนกันระหว่างบุญกับบาป ตามการกระทำของแต่ละบุคคล บางครั้งบางคนกำลัง เจริญก้าวหน้าในชีวิต แต่บาปก็มาตัดรอนให้ชีวิตพบอุปสรรคแบบทันด่วน ทำให้เกิดคำถามที่กล่าวถึงกัน มากนอกจากคำถามเรื่องการล้างบาป ในกรณีที่ทำความชั่วมากกว่าความดี คือ นึกถึงความดีไม่ค่อยออก จะมีวิธีแก้ไขอย่างไร เพื่อให้ชีวิตดำเนินไปได้อย่างมีความสุข เพราะบาปที่ทำไปแล้วไม่สามารถล้างได้ แม้ จะยังไม่สามารถทำความดีให้ยิ่งยวดที่จัดอยู่ในขั้นล้างบาปได้ก็ตาม โดยปรกติพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนให้ทำดีอย่างต่อเนื่อง จนความดีเต็มเปี่ยมสามารถกำจัด กิเลสตัวก่อบาปให้หมดสิ้นไปได้ จึงจะได้ชื่อว่าสิ้นสุดกิจของการเกิดมาเป็นมนุษย์ เพราะฉะนั้นวิธีแก้ไข บาปอกุศลที่ได้กระทำไปแล้วตามหลักพระพุทธศาสนา คือ ประการแรก ต้องเห็นโทษของบาปกรรมนั้น แล้ว ยอมรับผิดเสียก่อน และตั้งใจว่าจะไม่ทำผิดอย่างนั้นอีก วิธีการแก้ไขต่อไป คือ ต้องฝึกทำความดีให้มากขึ้น เพื่อให้คุ้นกับการทำความดีกระทั่งมีบุญมาก ทำให้ผลแห่งกรรมชั่วตามส่งผลไม่ทัน ดังที่ผู้รู้ในทางพระพุทธ ศาสนา ใช้คำว่า การละลายบาป แม้ยังล้างบาปตามนัยของพระพุทธศาสนาดังที่กล่าวมาแล้วได้ไม่หมด แต่สามารถละลายบาปให้เจือจางได้ เพราะหากไม่ทำดีให้ยิ่งขึ้นไปแล้ว โอกาสที่บาปจะส่งผลก็มีมาก เมื่อ บาปส่งผลแล้วจะให้ทำความดีได้อย่างเต็มที่ก็เป็นเรื่องยาก วิธีการละลายบาปนี้ มีกล่าวไว้ใน โลณกสูตร ว่า 1 โลณกสูตร, อังคุตรนิกาย ติกนิบาต, มก. เล่ม 34 หน้า 492 บ ท ที่ 6 ท ร ร ศ น ะ เ รื่ อ ง ก า ร ล า ง บ า ง ใ น พ ร ะ พุ ท ธ ศ า ส น า DOU 133
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More